เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การสหประชาชาติ เผยในวันเสาร์ (15 ส.ค.) ระบุ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และอีกมากกว่า 20,000 ราย ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในไนเจอร์ ที่มีต้นตอมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง นานนับสัปดาห์
รายงานของ สำนักงานสหประชาชาติ เพื่อการประสานงานกิจการมนุษยธรรม (OCHA) ที่มีการเผยแพร่ออกมาล่าสุด ระบุว่า นอกเหนือจากจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายแล้ว อุทกภัยครั้งเลวร้ายนี้ยังทำลายบ้านเรือนของประชาชนไปทั้งสิ้น 2,170 หลัง และทำลายพื้นที่เพาะปลูกจำนวนมาก ส่งผลให้ชาวไนเจอร์ราว 3,100 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน และอีกมากกว่า 20,000 ราย เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ด้านสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของทางการไนเจอร์ ได้ประกาศตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวขึ้นหลายแห่งตามโรงเรียนในพื้นที่ประสบภัย แต่ก็มีผู้ประสบภัยบางส่วนที่เลือกจะไปพักอาศัยอยู่กับครอบครัวหรือญาติ
รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไนเจอร์ต้องเผชิญกับภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง จนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในภาคกลางและภาคใต้ของไนเจอร์ ขณะที่บางพื้นที่ก็ถูกน้ำท่วมซ้ำทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้ฟื้นตัวจากเหตุอุทกภัยเมื่อปี 2014
ขณะที่ในกรุงนิอาเมย์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศนั้น ทางการประกาศให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำไนเจอร์ (Niger River) เร่งอพยพออกจากบ้านเรือนของตน หวั่นน้ำจากแม่น้ำสายดังกล่าว ไหลเอ่อท้นเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน
ทั้งนี้ แม่น้ำไนเจอร์ ซึ่งไหลผ่านพื้นที่มากกว่า 2 ล้านตารางกิโลกในแอฟริกา ถือเป็นแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับ 3 ของทวีปแห่งนี้ และยังเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงประชาชนมากกว่า 100 ล้านคนในหลายประเทศตั้งแต่กินีไปจนถึงไนจีเรีย