เอเอฟพี – “สงครามปาหมอน” (pillow fight) ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ของโรงเรียนนายร้อย เวสต์ พอยนต์ ในสหรัฐฯ ต้องกลายเป็น “สมรภูมิเลือด” ในปีนี้ เมื่อมีนักศึกษาทหารเล่นพิเรนทร์นำของแข็งยัดใส่ไว้ในหมอน จนทำให้มีนักศึกษาบาดเจ็บถึง 30 นาย หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.)
โรงเรียนนายร้อย เวสต์ พอยนต์ เผยต่อนิวยอร์กไทม์สว่า นักศึกษาทหารที่เพิ่งผ่านการฝึกภาคฤดูร้อนปีแรกได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมนี้รวม 30 นาย โดยมีทั้งผู้ที่ขาหักและไหล่หลุด แต่มีอยู่ 24 นายที่อาการถึงขั้น “สมองกระทบกระเทือน”
การปาหมอนเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเปลี่ยนผ่าน (rite of passage) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคี และเฉลิมฉลองการจบชั้นปีที่ 1 ของนักศึกษาวิชาทหารในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ส.ค. มีนักเรียนนายร้อยบางคนเอาหมวกซึ่งทางโรงเรียนสั่งให้สวมขณะทำกิจกรรมไปยัดใส่ไว้ในหมอน
พันโท คริสโตเฟอร์ แคสเกอร์ โฆษกโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยนต์ ระบุว่า นักศึกษาทหารรุ่นพี่ที่ควบคุมกิจกรรมนี้ได้ออกมาตรการ “บรรเทาความเสี่ยง” โดยสั่งให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ต้องสวมหมวกเพื่อป้องกันศีรษะ
คลิปวีดีโอที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทิวบ์เผยให้เห็นนักศึกษาทหารหลายร้อยคนตั้งหน้าตั้งตาทุบหมอนใส่เพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนในทวิตเตอร์ก็มีการแชร์ภาพถ่ายนักศึกษาทหารในสภาพโชกเลือด
“เวสต์พอยนต์ขอชื่นชมนักเรียนนายร้อยทุกคนที่ต้องการสร้างสปิริตความสามัคคี และรู้สึกเสียใจที่มีการบาดเจ็บเกิดขึ้น... เราจะดำเนินการสอบสวนอย่างรัดกุมเพื่อหาสาเหตุของการบาดเจ็บครั้งนี้” พ.ท.แคสเกอร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนยังไม่มีแผนลงโทษนักเรียนที่ใช้ของแข็งยัดใส่หมอนจนเป็นเหตุให้เพื่อนๆ บาดเจ็บ และจะไม่ยกเลิกประเพณีปาหมอนด้วย
นักศึกษาทหารบางคนเผยกับนิวยอร์กไทม์สว่า มีเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งถูกทุบจนสลบ และยังไม่สามารถกลับมาเรียนตามปกติได้ ทว่า แคสเกอร์ ปฏิเสธเรื่องนี้
กิจกรรมปาหมอนของโรงเรียนนายร้อย เวสต์ พอยนต์ เป็นประเพณีที่กระทำสืบเนื่องกันมานานตั้งแต่ปี 1897
กิจกรรมนี้เคยถูกระงับไปเมื่อปี 2013 หลังเกิดกรณีนักเรียนนายร้อยคนหนึ่งเอากล่องเหล็กที่ใส่กุญแจล็อกได้ไปยัดไว้ในหมอนเมื่อปีก่อนหน้า