เอเอฟพี - สงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางทำให้เด็กมากกว่า 13 ล้านคนไม่ได้เรียนหนังสือ พร้อมเตือนว่า “ความหวังของคนรุ่นหนึ่ง” อาจสูญสลายไป หากพวกเขาไม่มีโอกาสกลับเข้าโรงเรียน รายงานจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยวันนี้ (3 ก.ย.)
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) แถลงรายงานว่า ด้วยผลกระทบจากความขัดแย้งที่มีต่อการศึกษาใน 6 ประเทศและดินแดนทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง พบว่า โรงเรียนกว่า 8,500 แห่งไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ เนื่องจากเกิดความไม่สงบในพื้นที่
ยูนิเซฟยกตัวอย่างกรณีนักเรียนและครูที่ตกอยู่ท่ามกลางห่ากระสุน ห้องเรียนถูกแปลงเป็นที่หลบระเบิด และเด็กๆ ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเดินผ่านแนวปะทะระหว่างกลุ่มขัดแย้ง 2 ฝ่ายเพื่อจะไปเข้าห้องสอบ
“ความโหดร้ายของสงครามกำลังส่งผลต่อเยาวชนทั่วทั้งภูมิภาค” ปีเตอร์ ซาลามา ผู้อำนวยการยูนิเซฟประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือกล่าว
“ไม่ใช่แค่ตัวอาคารโรงเรียนเท่านั้นที่เสียหายจากระเบิด แต่เด็กนักเรียนรุ่นนี้ก็รู้สึกท้อแท้ เมื่อเห็นความมุ่งหวังและอนาคตของพวกเขาถูกทำลาย”
เฉพาะปีที่แล้ว ยูนิเซฟได้รับรายงานการโจมตีโรงเรียนถึง 214 ครั้งในซีเรีย อิรัก ลิเบีย ดินแดนปาเลสไตน์ ซูดาน และเยเมน
ในกรณีของซีเรีย โอกาสทางการศึกษาของเยาวชนถูกปิดกั้นอย่างร้ายแรงด้วยพิษของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานถึง 4 ปีครึ่ง โรงเรียน 1 ใน 4 ของประเทศต้องปิดตัวลงหลังจากความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 เยาวชนซีเรียกว่า 2 ล้านคนต้องออกจากโรงเรียน และอีกราว 500,000 คนเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการศึกษา
ยูนิเซฟชี้ว่า เหตุโจมตีสถานศึกษาโดยตรงครั้งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นในเยเมน เมื่อมีการยิงถล่มห้องพักครูที่โรงเรียนในเมืองอัมรานทางตะวันตกของประเทศ จนทำให้ครู 13 คน และนักเรียนอีก 4 คนเสียชีวิต
“การสังหาร ลักพาตัว และจับกุมนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เกิดขึ้นเป็นประจำ” รายงานฉบับนี้ ระบุ
ในบริเวณฉนวนกาซาซึ่งเคยเกิดการยิงปะทะนาน 50 วันระหว่างกลุ่มคิดอาวุธฮามาสและกองทัพอิสราเอล จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,200 คนในฝั่งปาเลสไตน์ และอีก 73 คนในฝั่งอิสราเอล ยูนิเซฟ ระบุว่า โรงเรียนอย่างน้อย 281 แห่งได้รับความเสียหายจากผลของการยิงโจมตี และมี 8 แห่งที่ “พังย่อยยับ”
ยูนิเซฟเรียกร้องให้มีการจัดการศึกษาแบบไม่เป็นทางการแก่เยาวชนในประเทศที่โรงเรียนยังไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ และขอให้ประเทศผู้บริจาคทั้งหลายให้ความสำคัญกับการศึกษาในตะวันออกกลางเป็นลำดับต้นๆ