รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยในวันจันทร์ (13 ก.ค.) โดยระบุยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเนปาลเมื่อเกือบ 3 เดือนที่แล้ว มีทั้งสิ้น 8,897 ราย ขณะที่ประชาชนอีกเกือบ 3 ล้านคนซึ่งรอดชีวิตจากเหตุธรณีพิโรธในครั้งนั้นยังต้องดำรงชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก พร้อมวอนนานาชาติส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับชาวเนปาลต่อเนื่อง
คำแถลงของสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติในวันจันทร์ (13) ระบุ จำนวนของผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในเนปาลจากผลพวงของเหตุแผ่นดินไหวซึ่งวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 7.8 ตามมาตราแมกนิจูด เมื่อวันที่ 25 เมษายน หรือเมื่อเกือบ 3 เดือนก่อน บวกกับเหตุ “อาฟเตอร์ช็อก” ระดับ 7.3 แมกนิจูดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 8,897 ราย ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คร่าชีวิตชาวเนปาล รวมถึงนักท่องเที่ยวไปมากที่สุดนับตั้งแต่เหตุแผ่นดินไหวระดับ 8.0 ที่เนปาลเมื่อปี ค.ศ. 1934
นอกเหนือจากคำแถลงเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการดังกล่าวแล้ว ทางสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติยังระบุว่า ในเวลานี้ยังมีชาวเนปาลอีกกว่า 3 ล้านคนซึ่งรอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว แต่ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ไม่มีทั้งบ้าน ไฟฟ้า น้ำประปา ขณะที่การหาอาหารประทังชีวิตในแต่ละวันก็เต็มไปด้วยความยากลำบาก
สำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติแสดงความกังวลว่า ความสนใจที่ลดน้อยถอยลงของสื่อทั่วโลกต่อข่าวภัยพิบัติในเนปาลครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อยอดเงินช่วยเหลือจากบรรดาประเทศผู้บริจาคที่มีแนวโน้มลดลง สวนทางกับค่าใช้จ่ายในการจัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่เพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ
“เหตุแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกในเนปาลได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แต่นั่นมิได้หมายความว่าภารกิจในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อผู้ประสบภัยในเนปาลจะต้องสิ้นสุดลงตามไปด้วย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากในประเทศนี้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อให้มีชีวิตรอดไปได้ในแต่ละวัน” เนื้อหาส่วนหนึ่งของคำแถลงของสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติระบุไว้
