เอพี/รอยเตอร์ –ฌอง หลุยส์ เด เบราเวอร์ (Jean-Louis de Brouwer) หัวหน้าความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมแห่งสหภาพยุโรปได้เตือนในวันพฤหัสบดี(30 เมษายน)ว่าสถานการณ์ในอิรักนั้นเลวร้ายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บรรดาประเทศผู้บริจาคกลับให้ความสนใจในจุดวิกฤตส่วนอื่นของโลก และในวันเดียวกันเกิดระเบิดคาร์บอมบ์จำนวน 5 คันในกรุงแบกแดด สังหารคนไปไม่ต่ำกว่า 17 คน
ฌอง หลุยส์ เด เบราเวอร์ (Jean-Louis de Brouwer) หัวหน้าความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมแห่งสหภาพยุโรป ได้ให้สัมภาษณ์กับเอพีเมื่อวานนี้(30 เมษายน)ว่ายอดผู้อพยพหนีภัยสงครามในอิรักเพิ่มขึ้นว่า 4 เท่าในปีที่ผ่านมา และยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีจำนวนลดลง “ความเลวร้ายมากที่สุดจะยังคงตามมา ซึ่งทำให้สถานการณ์ด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมนั้นมีความจำเป็นมากกว่าเดิมหลายเท่า แต่ทว่าปัญหาในเวลานี้คือเงินช่วยเหลือ”เด เบราเวอร์ กล่าว
ในเดือนมิถุนายน ปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปเป็นเจ้าภาพร่วมกับองค์การสหประชาชาติได้เรียกร้องการบริจาคเพื่ออิรักในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งในขณะนั้นอียูประสบความสำเร็จในการทำให้เม็ดเงินกองทุนช่วยเหลืออิรักเพิ่มเป็น 2 เท่าจาก 22 ล้านดอลลาร์ในปี 2014 เป็นจำนวน 43 ล้านดอลลาร์ในปี 2015
นอกจากนี้ เด เบราเวอร์ ยังได้ตำหนิในทางปฎิบัติที่ไม่อนุญาตให้ผู้อพยพจากเขตมุสลิมสุหนี่เข้าไปยังกรุงแบกแดด หรือเขตอิทธิพลของชาวเคิร์ดโดยปราศจากผู้ที่ให้การรับรอง และส่งผลทำให้ผู้อพยพจำนวนมากตกค้าง และไม่ทราบว่าจะสามารถหนีไปที่ใดได้
และในวันเดียวกันช่วงเย็น มีการเกิดระเบิดคาร์บอมบ์สังหารจำนวน 5 คันทั่วกรุงแบกแดด ซึ่งเกิดขึ้นในย่านอิสคาน(Iskan) ซึ่งตำรวจในพื้นที่และทีมแพทย์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 คน
ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานว่า ทางการอิรักได้ยกเลิกการประกาศใช้เคอร์ฟิวในกรุงแบกแดดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อต้องการให้การใช้ชีวิตตามปกติกลับคืนสู่เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กองกำลังอิรักต่อสู้การรุกคืบของกลุ่มก่อการร้าย IS ที่แผ่อิทธิพลเข้ายึดทางเหนือและทางตะวันตกของอิรักในหน้าร้อนที่ผ่านมา
แต่ทว่าการยกเลิกเคอร์ฟิวอาจจะเปิดโอกาสให้กลุ่มติดอาวุธสามารถออกปฎิบัติการได้มากขึ้น เพราะเหตุระเบิดในกรุงแบกแดดล่าสุดในวันพฤหัสบดี(30 เมษายน)ถือเป็นครั้ง 3 ของการโจมตีในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้เมื่อวานนี้(30 เมษายน)เกิดคาร์บอบ์ใกล้กับโรงพยาบาลเด็กในจามิลา( Jamila) สังหารพลเรือนไปอีก 3 คน และมีผู้เสียชีวิตอีก 4 รายในเหตุระเบิดที่ย่านการค้าอัล – ฮูร์ริยา( al-Hurriya) และมีผู้เสียชีวิต 3 คนในเขตตาลบิยา( Talbiya) และอีก 2 รายในเขต Ur
