เอเอฟพี - เกาหลีใต้ในวันพุธ (2 ก.ย.) กล่าวหาเกาหลีเหนือ ส่งโดรน (อากาศยานสอดแนมไร้คนขับ) ต้องสงสัยสอดแนมข้ามพรมแดนระหว่างการเจรจาที่มีเป้าหมายยุติการเผชิญหน้าทางทหารที่ผลักให้สองชาติอยู่ขอบเหวแห่งการสู้รบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถานการณ์ความตึงเครียดที่ส่อกระพือขึ้นอีกครั้งในคาบสมุทร ไม่นานหลังจากกลับมาเปิดศึกน้ำลายตอบโต้กันไปมาอีกรอบ ด้วยต่างฝ่ายต่างอ้างชัยชนะในข้อตกลงคลี่คลายข้อพิพาท
คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้เผยว่า เรดาร์ของพวกเขาตรวจพบอากาศยานไร้คนขับต้องสงสัยลำหนึ่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ในเขตปลอดทหาร (DMZ) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม “เราพบเห็นมันบินเข้ามาใกล้รอบนอกทางใต้ของ DMZ หลายครั้ง แต่เราล้มเหลวในการเข้าสกัดมัน”
การบินสอดแนมดังกล่าวมีขึ้นขณะเจ้าหน้าระดับสูงของสองเกาหลีเริ่มเจรจามาราธอนเพื่อลดความตึงเครียด ซึ่งปะทุขึ้นตามหลังายทหารโสมขาว 2 นายเหยียบกับระเบิดตามแนวชายแดนได้รับบาดเจ็บ
ภายใต้ข้อตกลงที่เห็นพ้องกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โซลยอมยกเลิกการกระจายเสียงผ่านลำโพงโฆษณาชวนเชื่อเข้าไปยังเกาหลีเหนือ หลังจากเปียงยางแสดงความเสียใจต่อเหตุทหารเกาหลีใต้เหยียบกับระเบิด
รายงานของสำนักข่าวยอนฮับเชื่อว่า อากาศยานไร้คนขับลำดังกล่าวมีเป้าหมายสอดแนมที่ตั้งทางทหารตามแนวชายแดนของกองทัพเกาหลีใต้ ขณะที่สองฝ่ายคู่อริยังคงยกระดับเฝ้าระวังทางทหารขั้นสูง ทั้งนี้การล่วงล้ำของมันกระตุ้นคำเตือนต่อต้านอากาศยาน จากนั้นทางโซลก็รุดส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีลำหนึ่งและเครื่องบินรบอีกลำเพื่อไล่ล่า แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
คำกล่าวหาดังกล่าวของเกาหลีใต้มีขึ้นไม่นาน หลังจากเกาหลีเหนือเมื่อวันพุธ (2 ก.ย.) ออกมาจวกโซล ที่ทึกทักว่าข้อตกลงร่วมสลายความตึงเครียดเป็นชัยชนะฝ่ายเดียว โดยอ้างเปียงยางนั้นยอมขอโทษต่อเหตุทหารเกาหลีใต้เหยียบกับระเบิด ทั้งที่ความจริงแล้ว เกาหลีเหนือแค่แสดงความเห็นใจไม่ใช่ขอโทษอย่างที่เข้าใจไปเอง
ในวันพุธ (2) คณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติของเกาหลีเหนือ (เอ็นดีซี) ออกคำแถลงโจมตีเกาหลีใต้ว่า การทึกทักว่าข้อตกลงร่วมกันเป็นชัยชนะฝ่ายเดียวนั้น เป็นความคิดที่คับแคบและขลาดกลัว
เอ็นดีซีสำทับว่า คำว่า “เสียใจ” ในข้อตกลง เป็นการแสดงความเห็นใจไม่ใช่ขอโทษอย่างที่เกาหลีใต้เข้าใจไปเอง นอกจากนั้นกรณีกับระเบิดที่เกิดระเบิดขึ้นตรงชายแดนนั้น ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมาก
ทางโฆษกของคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติของเกาหลีเหนือ ยังโจมตีเกาหลีใต้ต่อกรณียังดำเนินการซ้อมรบร่วมด้วยกระสุนจริงครั้งใหญ่กับสหรัฐฯ ตามหลังข้อตกลงยุติการเผชิญหน้าทางทหาร “เกาหลีใต้ควรปล่อยให้สถานการณ์ปัจจุบันเป็นเช่นนี้หรือไม่ การงอกงามอย่างล้ำค่าของความปรองดองจะถูกยับยั้งด้วยความเย็นชา ความพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะถูกผลักกลับไปสู่การเผชิญหน้าอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตาม ทางจอง จุนฮี โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ได้แถลงตอบโต้เอ็นดีซีทันควันว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาในการใช้อารมณ์ หรือเถียงกันว่าใครถูกใครผิด แต่ทั้งสองฝ่ายควรดำเนินการเพื่อให้ข้อตกลงบรรลุผลอย่างจริงใจ
ทั้งสองฝ่ายเฉียดใกล้เปิดศึกกันเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากเกาหลีใต้ดำเนินการตอบโต้กรณีทหารเหยียบกับระเบิด ด้วยการรื้อฟื้นเปิดลำโพงยักษ์แพร่กระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อเข้าไปยังเกาหลีเหนืออีกครั้ง หลังปิดมานานกว่า 1 ทศวรรษ
การเผชิญหน้าเข้าสู่จุดวิกฤต หลังเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่เข้าใส่เกาหลีใต้ 4 ลูก ส่วนโซลก็ยิงตอบโต้กลับอย่างดุเดือด อย่างไรก็ตามไม่มีฝ่ายไหนได้รับความสูญเสีย
จากนั้นเปียงยางก็ยื่นคำขาดให้โซลระงับการแพร่กระจายเสียงไม่อย่างนั้นก็จะเจอปฏิบัติการทางทหาร แต่ในวันเดียวกันนั้นเองทั้งสองฝ่ายก็เห็นพ้องเปิดเจรจาด้วยผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศ