รอยเตอร์ - นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ (21 ส.ค.) วิงวอนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ อย่ากระทำการใดๆ ที่อาจขยายความตึงเครียดเพิ่มเติม ท่ามกลางสถานการณ์คาบสมุทรระอุถึงขีดสุด หลังโซลปฏิเสธระงับกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อและเปียงยางออกคำสั่งให้ทหารเข้าสู่ภาวะสงคราม
ดูท่าว่าสองประเทศกำลังมุ่งหน้าสู่การปะทะกันอีกครั้ง หลังจากเกาหลีใต้ปฏิเสธเส้นตายของเกาหลีเหนือที่ยื่นคำขาดให้ระงับกระจายเสียงต่อต้านเปียงยางในช่วงเที่ยงวันของวันเสาร์ (22 ส.ค.) ไม่อย่างนั้นจะเจอปฏิบัติการทางทหาร
จากข้อมูลของเกาหลีใต้เผยว่าเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่เข้ามา 4 ลูกในวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) ซึ่งเชื่อว่าเพื่อประท้วงการกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเปียงยางตามแนวชายแดน กระตุ้นให้โซลยิงตอบโต้กลับไปด้วยกระสุนปืนใหญ่ 29 นัด อย่างไรก็ตามทางเกาหลีเหนืออ้างว่าเกาหลีใต้แต่งเรื่องขึ้น เพื่อเป็นข้ออ้างยิงใส่พวกเขา
เอริ คาเนโค โฆษกหญิงของสหประชาชาติ เผยว่า นายบัน คีมูน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ ระหว่างปี 2004-2006 มีความกังวลใหญ่หลวงต่อสถานการณ์ล่าสุดนี้ “เราเรียกร้องทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นจากการใช้มาตรการใดๆ เพิ่มเติมที่อาจซ้ำเติมความตึงเครียด นอกจากนี้เขายังร้องขอทุกฝ่ายหันหน้าสู่การเจรจาเพื่อลดความตึงเครียด เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี”
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือออกคำสั่งให้ทหารที่ประจำการอยู่แนวหน้าเข้าสู่ภาวะสงครามในวันศุกร์ (21 ส.ค.) หนึ่งวันหลังจากสองชาติเกาหลียิงปืนใหญ่ข้ามเขตปลอดทหารเข้าใส่กันในวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) ส่งผลให้กองทัพโซลต้องยกระดับเฝ้าระวังขั้นสูงสุด
ความตึงเครียดระหว่างสองฝ่ายคุกรุ่นอยู่ก่อนแล้วก่อนหน้าเหตุยิงปืนใหญ่เข้าใส่กัน หลังจากเกาหลีใต้กล่าวโทษเกาหลีเหนือแอบลอบมาวางกับระเบิดที่ทำให้ทหารโซล 2 นายได้รับบาดเจ็บเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (17 ส.ค.) เกาหลีใต้ก็เปิดฉากซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ กระพือความโกรธเกรี้ยวแก่เปียงยาง
เกาหลีเหนือยื่นหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ เรียกร้องอีกครั้งให้มีการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับประเด็นการซ้อมรบทางทหารดังกล่าว แต่เหล่าคณะผู้แทนบอกว่าไม่มีแผนหารือกันในเรื่องนี้แต่อย่างใด
การซ้อมครั้งนี้ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 28 สิงหาคม ส่วนใหญ่แล้วเป็นการจำลองการโจมตีของเกาหลีเหนือทางคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังมีทหารเกาหลีใต้มากถึง 50,000 นาย และกำลังพลสหรัฐฯ 30,000 นายเข้าร่วม
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (21 ส.ค.) สหรัฐฯ ระงับการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ชั่วคราว เพื่อประสานงานกับโซลเกี่ยวกับเหตุยิงปืนใหญ่ตอบโต้กับเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามเวลานี้ได้กลับมาซ้อมรบตามกำหนดการเดิมแล้ว
“การซ้อมรบถูกระงับชั่วคราว เพื่อปิดทางให้ฝ่ายสหรัฐฯติดต่อประสานงานกับเกาหลีใต้เกี่ยวกับเหตุยิงปืนใหญ่ตอบโต้กับเกาหลีเหนือ” เดวิด เชียร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ด้านเอเชียตะวันออกบอกกับผู้สื่อข่าว “การซ้อมรบกลับมาดำเนินการตามแผน”
สงครามเกาหลีระหว่างปี 1950-53 ยุติลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพ นั่นหมายความว่าในทางเทคนิคแล้วสองชาติเกาหลียังคงอยู่ในภาวะสงคราม