สิงคโปร์คุมเข้มประชุมด้านความมั่นคงเอเชีย ตำรวจยิงรถฝ่าด่านนอกโรงแรม

เอเอฟพี - การประชุมด้านความมั่นคงภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกในวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) ต้องดำเนินการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงคนขับรถยนต์รายหนึ่งเสียชีวิต เพราะฝ่าด่านตรวจใกล้ที่ประชุม ซึ่งต่อมาได้พบยาเสพติดอยู่ในรถคันดังกล่าว

การประชุม "แชงกรีลา ไดอะล็อก" ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งมีรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ "แอชตัน คาร์เตอร์" กับผู้ดำรงตำแหน่งเดียวกันจากทั่วโลก พร้อมด้วยบรรดานายทหารระดับสูง ได้พูดคุยกันเสร็จสิ้นเมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์

การประชุมวันนี้ ต้องดำเนินการรักษาความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากเมื่อช่วงก่อนรุ่งสาง ตำรวจได้เปิดฉากยิงเข้าใส่รถยนต์คันหนึ่งที่มีชายชาวสิงคโปร์อยู่ในรถ 3 คน เนื่องจากพวกเขาพยายามฝ่าด่านตรวจบริเวณด้านนอกโรงแรมแชงกรีลา ซึ่งใช้จัดประชุม

เหตุการณ์นี้ทำให้คนขับวัย 34 ปีเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว ผู้โดยสารทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเอาไว้

"พบสิ่งที่เชื่อว่าเป็นสารเสพติดพร้อมกับอุปกรณ์ที่น่าจะใช้สำหรับเสพยาจากชายคนหนึ่งที่ถูกควบคุมตัว" ตำรวจระบุในคำแถลง

ตำรวจบอกว่า ตัวคนขับและผู้โดยสารอีกรายเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่จากการความผิดหลายคดี อย่างไรก็ตาม ไม่พบอาวุธหรือวัตถุระเบิดภายในรถคันนั้น

ช่างภาพของเอเอฟพีบอกว่า รถคันที่ฝ่าด่านได้ถูกลากไปตอนเที่ยง สามารถมองเห็นรูกระสุนได้บริเวณด้านหน้าของรถ ส่วนชาวบ้านในคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้ๆ บอกกับหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ ว่าได้ยินเสียงปืน 2 นัดตอนเวลาประมาณ 4.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

การยิงกันนับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำที่สุดในโลก แต่ถึงกระนั้นสิงคโปร์ก็ยังมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ตนจะตกเป็นเป้าก่อการร้าย

กฏหมายควบคุมยาเสพติดของสิงคโปร์มีความเข้มงวดมาก ศาลสามารถตัดสินโทษถึงประหารชีวิต สำหรับผู้ที่ค้ายาเสพติดอย่างเฮโรอีนในปริมาณมาก

"การสืบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเหตุร้ายครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการประชุม อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนต่อไป" คำแถลงระบุ

หลังเกิดเหตุ ตอนแรกตำรวจได้บอกแก่ผู้ที่มาเข้าร่วมประชุมว่า จะปิดกั้นการเข้าออกของโรงแรม ห้ามผู้ใดเข้าโดยเด็ดขาด ถนนทุกสายที่ตรงไปสู่โรงแรมถูกบล็อคด้วยแนวป้องกันของตำรวจ

แต่พอช่วงเช้าวันอาทิตย์ ก็มีการผ่อนผันให้มีการเข้าสู่โรงแรมได้ ทำให้ประชุมกันต่อได้เมื่อตอน 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น