เอเอฟพี – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐวอชิงตันวานนี้ (21 ส.ค.) หลังสถานการณ์ไฟป่าครั้งเลวร้ายยังลุกลามไม่หยุด ขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ส่งนักผจญเพลิงเข้าไปช่วยทางการสหรัฐฯ ควบคุมไฟป่าซึ่งกำลังเผาผลาญพื้นที่แห้งแล้งทางภาคตะวันตกของประเทศ
คำสั่งของ โอบามา ส่งผลให้มีการเบิกจ่ายงบจากรัฐบาลกลางเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในรัฐวอชิงตัน ซึ่งเวลานี้ไฟป่าหลายจุดยังควบคุมไม่ได้ และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสังเวยชีวิตไปแล้วถึง 3 ราย
ไฟป่าครั้งนี้กินพื้นที่ครอบคลุม10 รัฐ โดยจุดที่ไฟยังเผาไหม้รุนแรงนั้นมีพื้นที่กว้างขวางถึง 1.3 ล้านเอเคอร์ (5,260 ตารางกิโลเมตร)
“ประชาชนจำนวนมากในรัฐวอชิงตัน รวมถึงรัฐทางตะวันตกอื่นๆ ยังไม่สามารถกลับไปอาศัยในบ้านเรือนของตนเองได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสกัดไฟป่า” ศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่าแห่งชาติสหรัฐฯ (NIFC) ระบุ
จุดที่ยังน่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มไฟป่าที่เรียกว่า “โอคาโนแกน คอมเพล็กซ์” ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมไฟป่า 5 จุดทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของรัฐวอชิงตัน
สถานีโทรทัศน์ KING-TV รายงานว่า สิ่งปลูกสร้างถูกเพลิงเผาผลาญไปแล้วจำนวนหนึ่ง และยังมีบ้านเรือนอีกกว่า 5,100 หลังที่อยู่ในข่ายเสี่ยงภัย
จากข้อมูลเมื่อวันพุธ(19) พบว่ามีนักผจญเพลิงและเจ้าหน้าที่สนับสนุนเกือบ 30,000 คนปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้นไฟป่าในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ ขณะที่ NIFC ระบุว่า บุคลากรด้านไฟป่าจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะเดินทางมาถึงเมืองบัวส์ รัฐไอดาโฮ ในวันอาทิตย์นี้(23 ส.ค.)
ไอดาโฮเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าหนักที่สุด โดยข้อมูลวานนี้ (21) พบว่ายังมีไฟป่าขนาดใหญ่อยู่ถึง 17 จุดในรัฐแห่งนี้ รองลงมาได้แก่ รัฐวอชิงตัน ออริกอน และแคลิฟอร์เนีย