xs
xsm
sm
md
lg

ค่าเงินโบลิวาร์ลงเหวมิด! ปปช.เวเนฯใช้ธนบัตร “ห่อกล้วยทอด” หลังบลูมเบิร์กชี้ มีแนวโน้มคาราคัสต้องขนทองที่เก็บออกเร่ขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ /ASTVผู้จัดการออนไลน์ – สถานการณ์เศรษฐกิจของเวเนซุเอลายังคงย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง และทำให้สกุลเงินโบลิวาร์นั้นไร้ค่า และมีปรากฏภาพประชาชนชาวเวเนซุเอลานำธนบัตร 2 โบลิวาร์ หรือราว 31 เซนต์ ใช้ต่างเป็นกระดาษห่อชิ้นกล้วยทอด ในขณะที่มีรายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร อาจตัดสินใจนำทองคำที่เก็บไว้ออกมาจำหน่ายเพื่อหาเงินสดเข้าประเทศ

เดลี คอลลาร์ สื่อการเมืองสหรัฐฯ และบลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจรายงานเมื่อวานนี้(19)ถึงสถานการณ์ย่ำแย่ทางเศรษฐกิจถดถอยอย่างต่อเนื่องของเวเนซุเอลาว่า ค่าสกุลเงินโบลิวาร์ของเวเนซุเอลาตกลงอย่างต่อเนื่องในประเทศที่มีการประกาศอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่ 68.5%

และล่าสุดในวันจันทร์(17)ที่ผ่านมานี้ เดลี คอลลาร์ รายงานว่า หนึ่งในผู้ใช้เรดดิตได้เผยแพร่ภาพธนบัตรสกุลเงินโบลิวาร์ถูกใช้ห่อกล้วยทอดแทนการใช้กระดาษเช็ดปากเพื่อการรับประทานตามปกติ

โดยค่าเงินโบลิวาร์ล่าสุด อยู่ที่ 1 โบลิวาร์ มีค่าเท่ากับ 0.16 ดอลลาร์ หรือราว 5 บาทในอัตราแรกเปลี่ยนล่าสุดในวันพฤหัสบดี(20) ซึ่งเดลี คอลลาร์ชี้ว่า เป็นส่วนใหญ่ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินโบลิวาร์ และสกุลดอลลาร์ สหรัฐฯจะอยู่ในตลาดมืด สืบเนื่องจากกฎควบคุมทุนของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโรที่ประกาศบังคับใช้ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อนุญาตให้ประชาชนชาวเวเนซุเอลาสามารถแลกเงินดอลลาร์ในความครอบครองจำกัดคนละ 300 ดอลลาร์ต่อวันเท่านั้น แต่ทว่าคนทั่วไปจะสามารถถือสกุลเงินดอลลาร์ในรูปเงินสดได้เพียง 200 ดอลลาร์เท่านั้น

นอกจากนี้ CNN Money สื่อสหรัฐฯรายงานว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอย่างไม่เป็นทางการระหว่างสกุลเงินเวเนซุเอลา และสกุลเงินสหรัฐฯนั้นพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้อัตราอ้างอิงจากเว็บไซต์อัตราแลกเปลี่ยนเงิน dolartoday.com พบว่า 1 ดอลลาร์มีค่าเท่ากับ 676 โบลิวาร์ โดยทางเดลั คอลลาร์ชี้ว่า เป็นเพราะนโยบายการควบคุมเงินทุน รวมไปถึงการกำหนดเพดานอัตราค่าบริการ (price cap) และการกําหนดสัดสวนกําไรต่อยอดขาย (Profit ceiling) ทำให้สินค้าอุปโภคและบริโภคขั้นพื้นฐานในประเทศดินแดนแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ติดระดับโลก ขาดแคลนอย่างสาหัส

และนอกจากนี้เวเนซุเอลายังประสบปัญหาอย่างหนักจากการที่รายได้หลักของประเทศเข้าคลังได้น้อยลงเนื่องมาจากการปรับตัวของราคาน้ำมันโลก

และเป็นผลทำให้ไม่กี่วันนี้ รัฐบาลมาดูโรอาจตัดสินใจต้องนำทองคำที่เก็บสะสมไว้ออกมาขาย เพื่อนำเงินสดเข้าประเทศ จากการรายงานของบลูมเบิร์ก

โดยแหล่งข่าวจาก Citigroup Inc สถาบันทางการเงินสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อธุรกิจว่า เวเนซุเอลาอาจกลายเป็นหนึ่งในชาติทวีปลาตินอเมริกาที่จำเป็นต้องนำทองคำออกขายหลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันที่ตกลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

และบลูมเบิร์กยังรายงานเพิ่มเติมว่า แต่ทว่าที่ผ่านมากลับพบว่า ราคาทองคำโลกต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีในช่วงเดือนกรกฎาคมล่าสุด ในขณะที่ค่าสกุลเงินดอลลาร์ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น

ดังนั้นจึงทำให้ทางบลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า หากทางมาดูโรจะตัดสินใจขายทองล็อตใหญ่ออกมา จะเป็นการยิ่งเพิ่มความกดดันให้กับราคาทองคำที่อ่อนกำลังอยู่แล้ว ถึงแม้ว่า จะมีธนาคารกลางชาติอื่นๆ รวมไปถึงธนาคารกลางสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้เพิ่มจำนวนการถือมากขึ้นก็ตาม

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ต่างลงความเห็นว่า เวเนซุเอลาไม่มีทางเลือกมากนัก

บลูมเบิร์กรายงานเพิ่มเติมอีกว่า รายได้เข้าคลังประเทศของเวเนซุเอลาไม่ต่ำกว่า 95% ได้มาจากการขายน้ำมัน และเพราะผลจากราคารูดลงของน้ำมันดิบโลกทำให้มีการเกรงว่า เวเนซุเอลาอาจจะมีการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น แต่ทว่า Barclays Plc ยังเชื่อมั่นว่า มีการเป็นไปได้ต่ำที่ทางคาราคัสจะผิดนัดชำระหนี้ในปีนี้

นอกจากนี้สื่อธุรกิจยังรายงานเพิ่มเติมว่า จากการรายงานของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF พบว่าในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เวเนซุเอลามีทองคำเก็บสำรองไว้ร่วม 11.607 ล้านไทรออนซ์

ซึ่งกลุ่ม Citigroup Inc ชี้ผ่านรายงาน ที่ถูกเผยแพร่ออกมาล่าสุดในวันจันทร์(18)ว่า 68% ของทุนสำรองของเวเนซุเอลาในเดือนสิงหาคม ถูกเก็บในรูปทองคำ “ประเทศที่กำลังขาดแคลนเงินสดอย่างหนักสามารถทำให้ราคาทองคำดิ่งหัวลงได้ง่าย ด้วยการเทขายทองคำที่สะสมไว้ออกมา และเวเนซุเอลาอยู่ในข่ายประเทศที่เสี่ยงที่จะทำเช่นนั้น”


หนึ่งในผู้ใช้เรดดิตได้เผยแพร่ภาพธนบัตรสกุลเงินโบลิวาร์ถูกใช้ห่อกล้วยทอดแทนการใช้กระดาษเช็ดปากเพื่อการรับประทานตามปกติ




กำลังโหลดความคิดเห็น