จีน-โสมแดงผิดหวัง ญี่ปุ่นบอกเสียใจแต่ไม่ขอโทษพฤติกรรมช่วงสงครามโลก

เอเอฟพี - จีนและเกาหลีเหนือ ต่างแสดงความผิดหวังเกี่ยวกับการออกมาแสดงความเสียใจของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ สำหรับความทุกข์ยากที่ญี่ปุ่นได้ก่อขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยปักกิ่งระบุโตเกียวพลาดกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ ส่วนโสมแดงตอกกลับหนักกว่า โดยบอกว่าเป็นคำแถลงที่เย้ยหยันอย่างไม่น่าให้อภัยต่อประชาชนเกาหลี

นางฮั่ว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า "ญี่ปุ่นควรแถลงอย่างชัดเจนถึงลักษณะสงครามของลัทธิทหาร การรุกรานแลัความรับผิดชอบของพวกเขาต่อสงครามต่างๆ แสดงการขอโทษอย่างจริงใจต่อประชาชนของประเทศที่ตกเป็นเหยื่อ"

นับเป็นปฏิกริยาอย่างเป็นทางการแรกของปักกิ่งต่อถ้อยแถลงของอาเบะ ในวาระครบรอบ 70 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เขาบอกว่าอนุชนรุ่นหลังของญี่ปุ่นไม่ควรต้องคอยออกมาขอโทษอย่างร่ำไป เนื่องจากพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับสงครามที่เกิดขึ้นในอดีตเลย

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเคยถูกวิพากษ์จารณ์เกี่ยวกับความพยายามกลบประวัติสงครามของประเทศและพยายามขยายแสนยานุภาพของกองทัพในปัจจุบัน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกว่าปักกิ่งติดตามคำแถลงของผู้นำญี่ปุ่น พร้อมระบุว่า จาง เย่สุ้ย รองรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้แสดงจุดยืนที่ขึงขังของจีนให้นายมาซาโตะ คิเตรา เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำจีนทราบแล้ว

ถ้อยแถลงของนายอาเบะ ได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดในจีน ดินแดนที่ความทรงจำเกี่ยวกับการรุกรานของญี่ปุ่นที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษ 1930 และไปสิ้นสุดในปี 1945 ยังคงเป็นบ่อเกิดแห่งความโกรธเคืองในหมู่ประชาชนทั่วไป

เป็นที่ทราบกันดีว่า สื่อมวลชนแห่งรัฐจีนมักใช้่ประเด็นอ่อนไหวในยุคสมัยนั้น กระพือความรู้สึกชาตินิยมในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดระหว่างสองชาติ ซึ่งติดอยู่ท่ามกลางข้อพิพาทด้านอาณาเขตในทะลจีนตะวันออก

นางฮั่วบอกว่าคำถามต่างๆทางประวัติศาสตร์ส่งผลกระทบโดยตรงกับความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศ เช่นเดียวกับความรู้สึกของประชาชนชาวจีน "ญี่ปุ่นควรเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์แห่งการรุกรานอย่างตรงไปตรงมา และพิจารณาด้วยจิตวิญญาณอย่างจริงจังว่าพวกเขายึดมั่นต่อพัฒนาการสันติภาพแค่ไหน และดำเนินการอย่างน่าเชื่อถือเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าชาติเพื่อนบ้านในเอเชียและประชาคมนานาชาติ"

ด้านกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ แสดงปฏิกิริยาคล้ายๆกัน บอกว่าคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่สำนักผิดอย่างใหญ่หลวงต่อพฤติกรรมของแดนปลาดิบระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าเป็นการเย้ยหยันอย่างไม่น่าให้อภัยต่อประชาชนเกาหลี โดยระบุคำกล่าวของนายอาเบะ ไม่ได้ยอมรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจต่ออาชญากรรมและความเสียหายเหลือจะพรรณา"