รอยเตอร์ - ผู้ลี้ภัยอุยกูร์ที่ถูกทางการไทยส่งตัวกลับไปยังมณฑลซินเจียงเมื่อเดือนที่แล้ว พยายาม “ทำร้าย” ตำรวจไทยและจีนระหว่างที่ถูกคุมตัวขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากเชื่อว่าพวกตนจะโดนประหารชีวิตเมื่อกลับถึงบ้านเกิด รัฐบาลท้องถิ่นซินเจียงเผยวันนี้ (4 ส.ค.)
ที่ผ่านมามีมุสลิมอุยกูร์หลายพันคนพยายามหลบหนีความไม่สงบในมณฑลซินเจียงโดยใช้เส้นทางผ่านประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อไปยังตุรกีซึ่งมีชาวอุยกูร์พลัดถิ่นไปตั้งรกรากอยู่เป็นจำนวนมาก
การที่รัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ 109 คนคืนให้แก่จีนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อทางการตุรกี ขณะที่นักสิทธิมนุษยชนและสหรัฐฯ ก็แสดงความเป็นห่วงว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้อาจถูกจีนลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม
เว็บไซต์ เทียนซาน ด็อต เน็ต อ้างข้อมูลจากรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียง ซึ่งระบุว่ามีข่าวลือแพร่สะพัดในหมู่ผู้ลี้ภัยอุยกูร์ 109 คนที่กำลังรอการเนรเทศกลับจีนว่า พวกเขาจะถูกรัฐบาลจีนสั่งประหาร
“มีใครบางคนปล่อยข่าวเพื่อยั่วยุให้ชาวอุยกูร์ทำร้ายตำรวจของไทยและจีน ซึ่งกำลังคุมตัวพวกเขาขึ้นเครื่องบิน” ทางการซินเจียงเผย
รายงานฉบับนี้ยังอ้างถึงชาวอุยกูร์ที่ชื่อ กูดูซี ตัวฮูตียูซูฟู ซึ่งบาดเจ็บที่ศีรษะหลังถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลัง “สยบ” ที่สนามบิน ทว่าสภาพจิตใจของเขาเริ่มผ่อนคลายขึ้นระหว่างเดินทางกลับ
“ตำรวจมีทัศนคติที่ดีต่อพวกเรามาก พวกเขาพาผมไปหาหมอ และตอนนี้แผลของผมก็เริ่มหายดีแล้ว” รายงานอ้างคำพูดของกูดูซี
กระทรวงการต่างประเทศของไทยยืนยันว่า ไม่มีการใช้กำลังเกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์ทั้งหมดไปขึ้นเครื่องบิน
“เราได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ซึ่งควบคุมตัวชาวอุยกูร์ทั้ง 109 คนแล้ว ยืนยันได้ว่าไม่มีการใช้กำลังหรือการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” เสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศยังไม่อาจยืนยันสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ทั้ง 109 คน รวมถึงสิ่งที่รัฐบาลและสื่อจีนแถลงเกี่ยวกับพวกเขา เนื่องจากทางการจีนไม่อนุญาตให้เข้าไปสัมภาษณ์ชาวอุยกูร์เหล่านี้ได้ตั้งแต่พวกเขาเดินทางกลับถึงซินเจียง
ทางการจีนระบุว่า ผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมืองอุรุมชีเป็นส่วนใหญ่
“พวกเราอยู่สุขสบายดีหลังจากกลับมา” กูลินิยาซี ชาวูตี หญิงชาวอุยกูร์คนหนึ่งบอกกับสื่อจีน
“มันไม่เหมือนสิ่งที่เราได้ยินตอนอยู่ต่างประเทศว่าจะเกิดกับพวกเรา”
รัฐบาลปักกิ่งกล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ว่าเป็นต้นเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในมณฑลซินเจียงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายร้อยคน ทั้งยังชี้ว่าชาวอุยกูร์ถูกแก๊งค้ามนุษย์ล่อลวงให้หลบหนีออกจากจีนเพื่อไปจับอาวุธสู้รบในซีเรียและอิรัก
เมื่อเดือนกรกฎาคม สื่อจีนรายงานว่า มีชาวอุยกูร์ที่ทางการไทยส่งตัวกลับอย่างน้อย 13 คนต้องสงสัยพัวพันกลุ่มก่อการร้าย และยังเผยแพร่ภาพผู้ลี้ภัยเหล่านี้ขณะเดินลงจากเครื่องบินในสภาพมีถุงผ้าดำคลุมศีรษะ
ดิลซัต ราซิต โฆษกสภาอุยกูร์โลก (World Uighur Congress) ตำหนิทางการจีนว่า “ผูกขาด” การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ทั้ง 109 คน
“รัฐบาลจีนใช้การโฆษณาชวนเชื่อเบี่ยงเบนความกังวลที่ชาวโลกมีต่อชะตากรรมของชาวอุยกูร์เหล่านั้น” เขาระบุในอีเมล์ที่ส่งถึงรอยเตอร์