เอเอฟพี - “ชาฟก็อต ฮุสเซน” ฆาตกรผู้ก่อคดีลักพาตัวและฆ่าเด็ก 7 ขวบในปากีสถานเมื่อปี 2004 ถูกประหารชีวิตด้วยวิธีแขวนคอเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (4 ส.ค.) ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากองค์การสหประชาชาติและนักสิทธิมนุษยชนที่ชี้ว่าเขายังเป็นเพียง “ผู้เยาว์” ในขณะที่กระทำความผิด
พี่ชายของนักโทษและเจ้าหน้าที่เรือนจำบอกกับเอเอฟพีว่า ฮุสเซนถูกแขวนคอก่อนเวลารุ่งสางเล็กน้อยที่เรือนจำในเมืองการาจี
คดีของเขาเป็นที่จับตาของนักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก หลังจากทนายและครอบครัวของเขาอ้างว่า ฮุสเซน มีอายุเพียง 15 ปีขณะที่เกิดเหตุฆาตกรรม และเขายังถูกตำรวจทรมานให้รับสารภาพ
เจ้าหน้าที่เรือนจำส่งร่างไร้วิญญาณของฮุสเซนคืนแก่ญาติๆ ซึ่งกล่าวหาว่าการประหารนักโทษครั้งนี้ไม่ได้กระทำอย่างถูกต้อง
“ที่คอของเขามีรอยถูกบาด และคอก็ฉีกขาดจากลำตัวครึ่งหนึ่ง” อับดุลมาญีด ผู้เป็นพี่ชายบอกกับเอเอฟพี ขณะที่สมาชิกในครอบครัวของ ฮุสเซน ซึ่งอาศัยอยู่ในแคว้นแคชเมียร์ฝั่งปากีสถานก็อยู่ในอาการเศร้าโศกกันทุกคน
“ทำไมพวกเขาต้องฆ่าน้องชายฉันที่เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วย เพราะพวกเราจนใช่ไหม” สุไมรา บีบี พี่สาวของ ฮุสเซน กล่าวพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย
ด้าน มัคนี เบกุม มารดาของฮุสเซน ก็ยืนยันกับเอเอฟพีว่า ลูกชายไม่ได้เป็นผู้ร้ายฆ่าคน
“ลูกฉันไม่ได้ทำผิด อัลเลาะห์ ซ.บ. เท่านั้นจะทรงประกาศความบริสุทธิ์ของเขาในศาลของพระองค์... เราทำอะไรไม่ได้ก็จริง แต่พวกเขา (เพชฌฆาต) จะต้องถูกไต่สวนในวันแห่งการพิพากษา”
ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นระบุว่า การไต่สวนคดีของ ชาฟก็อต ฮุสเซน “ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล” และเรียกร้องให้กรุงอิสลามาบัดตรวจสอบคำกล่าวอ้างที่ว่าเขาถูกทรมานให้รับสารภาพ รวมถึงอายุที่แท้จริงของ ฮุสเซน ขณะเกิดการฆาตกรรมขึ้นด้วย
เมื่อค่ำวานนี้ (3) ทางการแคว้นแคชเมียร์ได้ขอให้ประธานาธิบดี มัมนูน ฮุสเซน แห่งปากีสถาน สั่งเลื่อนการประหารออกไปก่อนเพื่อไต่สวนให้แน่ชัด แต่แล้วการประหารก็ยังคงเกิดขึ้นตามกำหนดเดิม
ชาฟก็อต ฮุสเซน จะถูกแขวนคอตั้งแต่เดือนมกราคม ทว่า ทางการปากีสถานได้เลื่อนการประหารออกมาถึง 4 ครั้ง เนื่องจากทีมทนายพยายามหาหลักฐานมายืนยันว่าฮุสเซนอายุไม่ถึง 18 ปีขณะที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด ซึ่งตามกฎหมายปากีสถานถือว่าเป็น “ผู้เยาว์” ที่ศาลไม่สามารถตัดสินประหารชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสอบสวนกลาง (federal Investigation Agency) ซึ่งรับหน้าที่ตรวจสอบเรื่องอายุของ ฮุสเซน ได้ตัดสินว่าเขาเป็น “ผู้ใหญ่” ในขณะที่ลงมือฆาตกรรม แต่ผลการสอบสวนก็ไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
ฮุสเซน ซึ่งเป็นบุตรชายคนเล็กของครอบครัวเคยทำงานเป็นยามอยู่ในเมืองการาจีเมื่อปี 2004 ซึ่งในช่วงนั้นบังเอิญมีเด็กชายอายุ 7 ขวบที่อาศัยอยู่ในละแวกที่ทำงานของเขาหายตัวไป
อีก 2-3 วันต่อมา ครอบครัวของเด็กก็ได้รับโทรศัพท์ขู่เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 500,000 รูปี โดยพบว่าเป็นเบอร์มือถือของฮุสเซน
เด็กหนุ่มรายนี้ถูกจับและรับสารภาพว่าเป็นคนลักพาตัวรวมถึงสังหารเด็กวัย 7 ขวบ แต่ภายหลังเขาได้กลับคำให้การ โดยอ้างว่าถูกทรมานให้รับผิด
ปากีสถานเริ่มนำโทษประหารกลับมาใช้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากกลุ่มติดอาวุธตอลิบานบุกโจมตีและสังหารคนไปกว่า 150 ชีวิตที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีนักโทษที่ถูกแขวนคอไปแล้วราว 180 คน