เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - “ซิตาเดล” กองทุนเฮดจ์ฟันด์ซึ่งตั้งฐานอยู่ในสหรัฐฯ แถลงในวันจันทร์ (3 ส.ค.) ว่า ตลาดหุ้นเซินเจิ้นของจีน ได้ออกคำสั่งระงับการซื้อขายของบัญชีเทรดหลักทรัพย์บัญชีหนึ่งซึ่งใช้โดยกิจการในเครือของตน การออกมายอมรับของเฮดจ์ฟันด์อเมริกันที่มีเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์รายนี้ บังเกิดขึ้นหลังจากหน่วยงานกำกับตรวจสอบของแดนมังกร ได้ประกาศเล่นงานบัญชีซื้อขายรวมหลายสิบบัญชี ในความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้ตลาดหลักทรัพย์จีนดำดิ่งต่อไปอีก
คณะกรรมการกำกับตรวจสอบหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (CSRC) แถลงเมื่อวันศุกร์ (31 ก.ค.) ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นเซินเจิ้น ซึ่งเป็น 2 ตลาดหลักทรัพย์สำคัญของแดนมังกร ได้ออกคำสั่งให้จำกัดการซื้อขายของบัญชีเทรดหลักทรัพย์รวม 24 บัญชี ทั้งนี้ CSRCไม่ได้ระบุว่าเป็นบัญชีใดบ้าง แต่อธิบายเหตุผลที่ทำเช่นนี้ว่า เนื่องจากบัญชีเหล่านี้ “ต้องสงสัยว่าพยายามสร้างอิทธิพลต่อราคาซื้อขายหลักทรัพย์ หรือต่อการลงทุนของนักลงทุนรายอื่นๆ”
CSRC ยังประณามบัญชีเทรดหุ้นเหล่านี้ว่า ทำให้ความคลื่อนไหวอย่างปั่นป่วนผันผวนของตลาดหลักทรัพย์แดนมังกรยิ่งรุนแรงมากขึ้นอีก ดังที่เห็นได้จากอาการเหวี่ยงขึ้นลงอย่างดุเดือดเลือดพล่านในขณะที่ดัชนีหุ้นสำคัญของตลาดติดลบทรุดฮวบลงมา 30% ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ก่อนที่รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงด้วยมาตรการกอบกู้ช่วยเหลือจำนวนมาก
ซิตาเดล ซึ่ง ณ เดือนมีนาคมปีนี้ ระบุว่าตนมีเม็ดเงินใช้ทำการลงทุนมากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์ กล่าวในคำแถลงเมื่อวันจันทร์ (3) ว่า บัญชีเทรดหลักทรัพย์ที่ถูกตลาดเซินเจิ้นสั่งระงับการซื้อขายนั้น เป็นบัญชีของ ซิตาเดล ซีเคียวริตีส์ ซึ่งเป็นกิจการในเครือที่ดำเนินงานแบบแยกต่างหากออกไป โดยทำหน้าที่เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อกิจการด้านหลักทรัพย์ ตลอดจนให้บริการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ต้องการซื้อกับผู้ต้องการขายหลักทรัพย์
บัญชีดังกล่าวนี้ บริหารจัดการโดยบริษัทจีนแห่งหนึ่ง คำแถลงกล่าวเอาไว้เช่นนี้
“สำหรับเราเอง (กองทุนเฮดจ์ฟันด์ “ซิตาเดล”) ยังคงดำเนินงานตามปกติจากสำนักงานต่างๆ ของเรา และเรายังคงปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ของท้องถิ่นทั้งหลายทั้งปวง” โฆษกผู้หนึ่งของซิตาเดล ระบุในคำแถลง
“ซิตาเดลทำการลงทุนในภูมิภาคนี้อย่างแข็งขันมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว และมีการสนทนาอย่างสร้างสรรค์อยู่เสมอกับทางหน่วยงานกำกับตรวจสอบทั้งหลาย รวมทั้งในระหว่างที่เกิดการปั่นป่วนผันผวนในตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย” คำแถลงบอก
พิจารณาจากคำแถลงของตลาดหลักทรัพย์สำคัญของจีนทั้ง 2 แห่งนี้ เมื่อถึงวันจันทร์ (3) ได้มีการออกคำสั่งจำกัดการเทรดของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อย่างน้อยที่สุด 34 บัญชี โดยที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ระบุว่าตนได้สั่งจำกัดไป 14 บัญชี ส่วนของเซินเจิ้นแจ้งว่ามี 20 บัญชี
สื่อมวลชนของภาครัฐรายงานว่า บัญชีที่ถูกสั่งจำกัดการเทรดเหล่านี้ มีบางบัญชีใช้วิธีสั่งซื้อหรือสั่งขายหุ้น เพื่อสร้างอิทธิพลต่อราคา เสร็จแล้วก็สั่งระงับไปไม่ได้ทำการเทรดจริงๆ
CSRC ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดของมาตรการจำกัดบัญชีเหล่านี้ แต่ตามกฎหมายหลักทรัพย์ของจีนนั้น หน่วยงานกำกับตรวจสอบแห่งนี้มีอำนาจสั่งห้ามเทรดเดอร์ไม่ให้ดำเนินการซื้อและขายได้
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนได้รายงานเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า 1 ใน 24 บัญชีที่ถูกเล่นงานในวันศุกร์(31 ก.ค.) นั้นเป็นของซิตาเดล ขณะเดียวกันก็ได้อ้างคำชี้แจงของบริษัทหลักทรัพย์ซิติกซีเคียวริตีส์ ซึ่งเป็นรัฐวิสหากิจ ที่ปฏิเสธว่าทางตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีเทรดหลักทรัพย์ดังกล่าว
อนึ่ง เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายรายในบริษัทหลักทรัพย์จีนและสถาบันการเงินต่างประเทศ เปิดเผยว่า CSRC กำลังกดดันพวกบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง และสิงคโปร์ ทั้งที่เป็นของต่างชาติและที่เป็นของจีน ให้ส่งรายงานบันทึกการซื้อขายหุ้นแดนมังกรแก่พวกเขา พร้อมกับชี้ว่าความเคลื่อนไหวคราวนี้แสดงให้เห็นว่า ปักกิ่งขยายการไล่ติดตามพวกทำชอร์ตเซล “ผู้ประสงค์ร้าย” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการส่วนหนึ่งในการ “ทุบตลาดหุ้นจีน” ออกไปจนถึงอาณาเขตนอกแผ่นดินใหญ่ด้วย