เอเอฟพี – แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหัรฐฯพบกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลในวันนี้ (21) เพื่อพยายามคลายความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ในขณะที่ผู้รัฐยิวรายนี้เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติในวอชิงตันปฏิเสธข้อตกลงที่ได้มาโดยยากเย็นฉบับนี้
ชายทั้งสองทักทายกันและกันด้วยจับมือก่อนที่จะเข้าสู่การประชุมที่ดำเนินมาแล้วเกือบ 2 ชั่วโมง โดยไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว ซึ่ง เนทันยาฮู ได้กล่าวประณามก่อนหน้านี้อย่างรุนแรง
การพบปะของพวกเขามีขึ้นในวันสุดท้ายของการเยือนอิสราเอลของ คาร์เตอร์ ซึ่งเป็นจุดแวะจุดแรกของการเดินทางเยือนภูมิภาคที่มีเป้าประสงค์เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพันธมิตรของสหรัฐฯในถูมิภาคนี้ ซึ่งต่างมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงอิหร่าน
เมื่อวันจันทร์ (20) คาร์เตอร์ ได้พบกับ โมเช ยาลอน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล และได้สงสัญญาณว่าสหรัฐฯพร้อมส่งเสริมความร่วมมือทางทหารกับรัฐยิว
เขายังได้ไปเยี่ยมดูพรมแดนทางตอนเหนือของระเทศนี้ที่ติดกับเลบานอน เพื่อประเมินภัยคุกคามที่อิสราเอลระบุว่ามาจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
อิหร่านถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มในภูมิภาคนี้ รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มฮามาส ศัตรูของอิสราเอล และอิสราเอลให้เหตุผลว่าการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าวจะเปิดทางให้อิหร่านสนับสนุนกลุ่มพวกนี้ได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อวันจันทร์ (20) คาร์เตอร์ พยายามที่จะคลายความกังวลของอิสราเอลที่ว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าวกับอิหร่าน ศัตรูเก่าแก่ของพวกเขา ส่งผลให้วอชิงตันกำลังปรับเปลี่ยนจุดความสนใจในภูมิภาคนี้ โดยเขากล่าวว่า อิสราเอลยังคงเป็น “เสาหลักของยุทธศาสตร์อเมริกาในตะวันออกกลาง”
ภายใต้ข้อตกลงเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ อิหร่านได้ตกลงที่จะยกเลิกหรือระงับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ของตนจำนวนมาก แลกกับการผ่อนคลายและยกเลิกมาตรคว่ำบาตรต่างๆ ในท้ายที่สุด
ชาติมหาอำนาจของโลกเรียกข้อตกลงดังกล่าวว่าเป็นโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับอิหร่านบนเส้นทางเส้นใหม่
อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู โต้แย้งว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้จากการได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ที่อาจถูกใช้โดยมีอิสราเอลเป็นเป้าหมาย
เขากล่าวว่า กำลังทางทหารยังคงเป็นทางเลือกที่จะถูกนำมาพิจารณาได้เพื่อขัดขวางไม่ให้อิหร่านได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะระบุว่า การโจมตีฝ่ายเดียวจากอิหร่านดูเหมือนว่าไม่ได้มีโอกาสเป็นไปได้สูงในตอนนี้
คาร์เตอร์ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้กำลังทางทหารหยุดยั้งอิหร่านจากการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าข้อตกลงฉบับนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขประเด็นดังกล่าวด้วยวิธีการทางการทูตก็ตาม
ปัจจุบันสหรัฐฯให้เงินช่วยเหลืออิสราเอลด้านการทหาร 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี นอกเหนือจากการส่วนที่ช่วยในค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงการอื่นๆ อย่างเช่น ระบบต่อต้านขีปนาวุธไอออนโดม ทั้งนี้ มีข้อชี้แนะออกมาว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวควรเพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
สภาคองเกรสมีเวลา 60 วันในการทบทวนข้อตกลงดังกล่าว และ เนทันยาฮู กำลังเรียกร้องสมาชิกสภานิติบัญญัติปฏิเสธมัน ในการการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์หลายช่องของสหรัฐฯ