รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปตะวันออกกลางในสัปดาห์หน้า ซึ่งเขาจะต้องรับหน้าที่อันยากลำบากในการทำให้เหล่าชาติพันธมิตรอย่างเช่นอิสราเอลอุ่นใจว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านจะไม่ทำให้ความรับผิดชอบที่สหรัฐฯ มีต่อความความมั่นคงของพวกเขาลดน้อยลง
จนถึงตอนนี้ทำเนียบขาวเพิ่งเปิดเผยจุดหมายปลายทางของทริปนี้มาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น คืออิสราเอล ซึ่งนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ประณามข้อตกลงเมื่อวานนี้ (14) ว่าเป็น “ความผิดพลาดอย่างน่าตกตะลึงครั้งประวัติศาสตร์”
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับรอยเตอร์ว่า แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจะเดินทางไปยังที่อื่นๆ ภายในภูมิภาคดังกล่าวด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด
ข้อตกลงระหว่างอิหร่านและหกชาติมหาอำนาจหลักของโลกซึ่งอาจพลิกโฉมตะวันออกกลาง จะจำกัดควบคุมกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ที่อ่อนไหวของอิหร่านแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ และจะทำให้เตหะรานกลับมาสู่เวทีโลกอีกครั้งหนึ่ง
อิหร่านเป็นชาติมหาอำนาจมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นศัตรูทั้งกับอิสราเอลและพันธมิตรอาหรับสายสุหนี่ของวอชิงตัน โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรของริยาดห์และเตหะรานทำสงครามตัวแทนทางนิกายกันมานานหลายสิบปีในซีเรีย, เลบานอน, อิรัก และเยเมน
แม้แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็ยังยอมรับว่า การปลดปล่อยเศรษฐกิจของอิหร่านออกจากมาตรการคว่ำบาตรมีแนวโน้มจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทัพอิหร่านและตัวแทนของพวกเขาในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
ในข้อความที่มีนัยสื่อถึงเหล่าพันธมิตร คาร์เตอร์ กล่าวในถ้อยแถลงเกี่ยวกับข้อตกลงอิหร่านว่า สหรัฐฯเตรียมพร้อม “ตรวจสอบอิทธิพลมุ่งร้ายของอิหร่าน” อยู่ตลอดเวลา
“เรายังคงเตรียมพร้อมที่จะส่งเสริมความมั่นคงของพันธมิตรของเราในภูมิภาคนี้ รวมถึงอิสราเอล” เขากล่าว
เมื่อวานนี้ (14) โอบามา โทรศัพท์ติดต่อกับบรรดาพันธมิตรในภูมิภาคนี้อย่างวุ่นวาย รวมถึงมงกุฎราชกุมารแห่งอาบู ดาบี และสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ทำเนียบข่าวกล่าวว่า โอบามา ได้เน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ที่จะทำงานกับเหล่าหุ้นส่วนในอ่าวอาหรับเพื่อตอบโต้ “กิจกรรมที่บ่อนทำลายเสถียรภาพ” ของอิหร่านและช่วยพวกเขาส่งเสริมศักยภาพด้านการป้องกันประเทศ
ภาวะที่อิหร่านเริ่มแข็งกร้าวขึ้นมาเรื่อยๆ นี้ทำให้ได้เห็นเหล่าชาติอ่าวอาหรับต่างเร่งเสริมสร้างกองทัพของตน รวมถึงด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ โอบามา เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำของบรรดารัฐอาหรับนิกายสุหนี่ที่สหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเขาประกาศว่าจะให้การสนับสนุนพวกเขาต่อสู้กับการรุกรานจากภายนอกใดๆ ก็ตาม