รอยเตอร์ - ในวันเสาร์ (18) เกิดการปะทะระหว่างกองกำลังแนชันแนลการ์ดของรัฐบาลยูเครน และกบฏยูเครนในบริเวณตอนกลางของโดเนตสก์ ยูเครนตะวันออก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีชาวบ้านอาศัย ส่งผลทำให้มีประชาชนในพื้นที่เสียชีวิต 4 รวมไปถึงทหารจำนวน 1 นาย
กลุ่มกบฏยูเครนแถลงข่าวว่า มีชาย 1 คนเสียชีวิตจากการปะทะระหว่างกองกำลังของรัฐบาลยูเครนและกลุ่มกบฏยูเครนตะวันออกที่บริเวณตอนกลางของโดเนตสก์ ซึ่งพยานในเหตุการณ์ของรอยเตอร์ได้เปิดเผยว่า เห็นร่างผู้เสียชีวิตอยู่ภายในตึกที่กำลังไหม้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่แน่ชัดในขณะนี้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนเดียวกันกับที่กลุ่มกบฏยูเครนกล่าวถึงหรือไม่
ด้านโฆษกกองทัพยูเครน แอนดรี ไลเซนโก (Andriy Lysenko) แถลงว่า “กบฏยูเครนโจมตีอย่างหนักในช่วงกลางคืนเพื่อไม่ต้องการให้ตกเป็นเป้าสังเกตของหน่วยงานสังเกตการณ์นานาชาติ”
และเสริมต่อว่า ทางกลุ่มกบฏเลือกที่จะโจมตีเขตที่อยู่อาศัยประชาชนในพื้นที่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของโดเนตสค์ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกบฏนิยมมอสโกกลุ่มนี้ และเป็นผลทำให้ทหารยูเครน 1 นายเสียชีวิต รวมไปถึงหญิงสูงวัยชาวยูเครน 1 คน และหลานสาวอีก 1 คน และชายชาวยูเครนอายุ 49 ปีเสียชีวิตอีก 1 ราย
แต่ในด้านตรงข้ามกบฏยูเครนตะวันออก กลับกล่าวหาว่า ทางแนชันแนลการ์ดเคียฟเป็นฝ่ายโจมตีอย่างหนัก ซึ่งเสียงการปะทะที่เป็นเสียงกราดยิง และระเบิดสามารถได้ยินไปทั่วใจกลางโดเนตสค์ในช่วงเย็นวันเสาร์ (18) จากการให้สัมภาษณ์ของพพยานในเหตุการณ์ โดเนตสก์เป็นเขตที่อยู่ใต้การปกครองของกลุ่มกบฏ และได้รับการลงคะแนนออกเสียงประชามติประกาศแยกตัวจากยูเครนในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่า ตัวเลขบาดเจ็บสูญเสียตามที่ทั้งสองฝ่ายอ้างไม่สามารถได้รับการยืนยันจากแหล่งอื่น
ด้านหน่วยงานสังเกตการณ์จากสหภาพยุโรป OSCE ระบุว่า ถึงแม้จะอยู่ในช่วงระหว่างการหยุดยิง แต่ไม่มีฝ่ายใดสั่งถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่แนวรบอย่างจริงจังตามข้อตกลง ซึ่งในวันศุกร์ (17) ไอวิกา ดาซิค (Ivica Dacic) หัวหน้า OSCE แถลงถึงสภาพหดหู่ด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ความขัดแย้งนี้ และร้องให้ทุกฝ่ายยึดตามข้อตกลงมินสก์ ที่จะนำไปสู่ทางออกของความขัดแย้งแท้จริง