ผู้นำยูเครนวิงวอนรัสเซีย “ได้โปรดถอนทหารออกจากประเทศผม” ชี้สันติภาพจะคืนมาในไม่กี่สัปดาห์

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน วิงวอนรัสเซียให้ช่วยถอนทหารออกไปจากประเทศของตนและปิดพรมแดน วันนี้ (11 ธ.ค.) ชี้หากมอสโกยอมให้ความร่วมมือสันติภาพจะกลับคืนมาในไม่กี่สัปดาห์

ถ้อยแถลงจากผู้นำยูเครนมีขึ้นเพียง 1 วันหลังมีการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออก เพื่อยับยั้งเหตุนองเลือดจากสงครามแบ่งแยกดินแดนที่ยืดเยื้อมานานถึง 8 เดือน

อย่างไรก็ดี การเปิดเจรจาสันติภาพและถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้งเพื่อสร้าง “เขตกันชน” (buffer zone) ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จหรือไม่

โปโรเชนโก ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนออสเตรเลีย เรียกร้องให้แดนหมีขาวปฏิบัติตามแผนสันติภาพที่ตกลงกันไว้ที่กรุงมินสก์ของเบลารุส เมื่อวันที่ 5 กันยายน

ข้อตกลงหยุดยิงซึ่งรัสเซียเป็นตัวตั้งตัวตี และมีผู้แทนจากฝ่ายกบฏและรัฐบาลเคียฟร่วมลงนาม ระบุให้มีการประกาศเขตกันชนเป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร และรัฐบาลยูเครนจะต้องให้อำนาจปกครองตนเองอย่างจำกัดต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในยูเครนตะวันออกกลับตึงเครียดขึ้นอีก เมื่อฝ่ายกบฏที่ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ และสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ได้จัดการเลือกตั้งผู้นำของตนเองเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ท่ามกลางเสียงประณามจากทั้งรัฐบาลยูเครนและชาติตะวันตก

โปโรเชนโก ฝากคำวิงวอนถึงรัสเซียระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ว่า “ได้โปรดหยุดยิง ได้โปรดปล่อยตัวประกันเป็นอิสระ ได้โปรดถอนทหารของท่านออกไปจากดินแดนของผม... และได้โปรดปิดพรมแดนเสีย แล้วผมสัญญาว่าถ้าคุณยอมปิดพรมแดน สันติภาพและเสถียรภาพในยูเครนจะกลับคืนมาภายใน 1 , 2 หรือ 3 สัปดาห์ ง่ายๆ แค่นั้นเอง”

แม้รัสเซียจะไม่เคยยอมรับว่าส่งทหารเข้าไปช่วยกบฏในยูเครน แต่กรุงเคียฟและชาติตะวันตกก็มีหลักฐานมากมายที่ยืนยันไปในทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่มอสโกอ้าง

โปโรเชนโกเตือนว่า รัสเซียกำลังถูกประชาคมโลกโดดเดี่ยว

“ขอพูดให้ชัดเจนตรงนี้ว่ายูเครนทำสงครามครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเอกราช ไม่ใช่เพื่อบูรณภาพแห่งดินแดนของเราแต่เพียงชาติเดียว แต่เราต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ประชาธิปไตย และสันติภาพ... โลกอารยะทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ทุกประเทศทั่วโลกอยู่ข้างยูเครน ในขณะที่รัสเซียกำลังถูกโดดเดี่ยว”

นายกรัฐมนตรีแอ็บบอตต์ย้ำจุดยืนของออสเตรเลียที่พร้อมสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับกบฏโปรรัสเซีย

“ออสเตรเลียมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนซึ่งเป็นประเทศเสรี และพร้อมจะทำทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อสนับสนุนยูเครน”

ความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและออสเตรเลียแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเก่า หลังเกิดเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกในเขตอิทธิพลของกบฏยูเครนตะวันออกเมื่อเดือนกรกฎาคม จนทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นพลเมืองและผู้อยู่อาศัยในออสเตรเลีย 38 คน

ชาติตะวันตกเชื่อว่าเครื่องบินลำนี้ถูกสอยร่วงจากฟ้าโดยขีปนาวุธที่ถูกส่งไปจากรัสเซีย แต่มอสโกยังยืนกรานปฏิเสธ