(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Chinese millionaires play ‘Great Escape’
By Asia Unhedged
14/07/2015
รายงานการศึกษาของ “นิวเวิลด์เวลธ์” ซึ่งนำออกเผยแพร่เร็วๆ นี้ระบุว่า มีเศรษฐีชาวจีนออกจากประเทศบ้านเกิดไปพำนักอาศัยอย่างถาวรในต่างแดน เป็นจำนวนสูงกว่าผู้มั่งคั่งร่ำรวยชาติอื่นๆ เหตุผลสำคัญก็คือเรื่องของภาษี และคุณภาพชีวิต
คนฐานะมั่งคั่งร่ำรวยซึ่งออกจากประเทศบ้านเกิดไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน เป็นสิ่งที่พบเห็นกันอยู่ทั่วโลก ทว่าในระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา เศรษฐีจีนซึ่งทำเช่นนี้มีจำนวนสูงกว่าเศรษฐีของชาติอื่นๆ ทั้งนี้ตามรายงานการศึกษาชิ้นใหม่ที่มุ่งติดตามว่าคนมั่งคั่งร่ำรวยเลือกไปพำนักอาศัยกันที่ไหนบ้าง (ดูรายละเอียดของรายงานฉบับนี้ได้ที่ http://nebula.wsimg.com/33c082a103704a172bf3bd8d8288db65?AccessKeyId=70E2D0A589B97BD675FB&disposition=0&alloworigin=1)
รายงานฉบับนี้ซึ่งมาจาก “นิวเวิลด์เวลธ์” (New World Wealth) บริษัทที่มุ่งให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาคความมั่งคั่งร่ำรวยของทั่วโลก มีการจัดทำบัญชีรายชื่อ 8 ประเทศซึ่งมีเศรษฐีเงินล้านเข้า/ออก สูงที่สุด ในช่วงระหว่างปี 2000 ถึง 2014
(หมายเหตุผู้แปล - เศรษฐี หรือตามศัพท์ที่รายงานฉบับนี้ใช้คือ “บุคคลผู้มีมูลค่าสุทธิสูง” high net worth individual ใช้อักษรย่อว่า HNWI นั้น Wikipedia อธิบายว่า ตามคำจำกัดความที่ใช้กันในโลกตะวันตก โดยเฉพาะในอเมริกา ตลอดจนในแวดวงธุรกิจธนบดีธนกิจ หรือ Private Banking Business ปกติแล้วหมายถึงบุคคลที่มีฐานะทางการเงินซึ่งสามารถใช้เพื่อการลงทุนได้ นั่นก็คือ มีสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่นับรวมที่อยู่อาศัยแห่งหลัก เป็นจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป)
หากดูกันที่บัญชีรายชื่อ 10 ประเทศซึ่งมีจำนวนเศรษฐีเป็นจำนวนมากที่สุดแล้ว จีนมาเป็นอันดับ 5 ด้วยจำนวน HNWI 608,500 คนในปี 2014 สำหรับที่ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเศรษฐีสินทรัพย์เงินล้านทั้งสิ้นราว 4.1 ล้านคน
ทว่า สำหรับบัญชีรายชื่อประเทศซึ่งพวก HNWI กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนา หรือก็คือโยกย้ายไปพำนักอาศัยอย่างถาวรในต่างแดนกันสูงที่สุดแล้ว จีนอยู่ในอันดับ 1 ด้วยจำนวน 91,000 คน ส่วนอันดับ 2 ในบัญชีรายชื่อนี้ได้แก่อินเดีย โดยมีเศรษฐีแดนภารตะ 61,000 คนจากที่มีอยู่ทั้งสิ้น 226,800 คน ทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ HNWI ชาวอินเดียนั้นมีความโน้มเอียงที่จะโยกย้ายไปพำนักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, และออสเตรเลีย
ในส่วนของเศรษฐีจีน รายงานของนิวเวิลด์เวลธ์ระบุว่า จุดหมายปลายทางที่นิยมโยกย้ายไปพำนักอาศัยกันได้แก่สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง, สิงคโปร์, และสหราชอาณาจักร ฮ่องกงนั้นถือเป็นทางเลือกยอดนิยมอันดับ 3 สำหรับการโยกย้ายไปอยู่ของพวก HNWI โดยรวม ด้วยจำนวนผู้ที่เข้าไปพำนักสุทธิเท่ากับ 29,000 คน ทั้งนี้กว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นเศรษฐีจีน
เหตุผลประการหนึ่งซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ มีความยินดีปรารถนาที่จะได้ต้อนรับ HNWI ชาวจีนไปพำนักกันเพิ่มมากขึ้น ก็คือ พวกเขาจะเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ตลอดจนจับจ่ายข้าวของราคาแพงต่างๆ นอกจากนั้นพวกเขายังทำการลงทุนอย่างอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เศรษฐกิจของท้องถิ่น
“ในจำนวนวีซ่าประเภทนักลงทุน ซึ่งออกโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว ปรากฏว่าเป็นการออกให้พลเมืองจีนถึงราวๆ 8 ใน 10” ยาฮู! ไฟแนนซ์ (Yahoo! Finance) หรือก็คือข่าวการเงินในเว็บไซต์ยาฮู ระบุ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://news.yahoo.com/chinas-millionaires-leaving-china-080000378.html) และรายงานต่อไปว่า “จอร์จ ออสบอร์น (George Osborne) รัฐมนตรีคลังสหราชอาณาจักร ถึงกับประกาศว่า ต่อไปนี้สหราชอาณาจักรควรต้องโฟกัสไปที่การอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น สำหรับการที่นักลงทุนชาวจีนจะเดินทางเข้ามา”
รายงานของนิวเวิลด์เวลธ์บ่งชี้ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐีจีนพากันเลือกไปพำนักอาศัยในต่างแดน ได้แก่ระบบภาษีในดินแดนมังกรที่เข้มงวดเรียกเก็บอัตราสูงๆ อย่างไรก็ดี ยาฮู! ไฟแนนช์ บอกว่า ยังมีสาเหตุประการอื่นๆ อีก ได้แก่ การที่พ่อแม่ผู้ปกครองชาวจีนมีความกังวลที่จะต้องเลี้ยงดูลูกหลานในสภาพแวดล้อมที่อากาศสกปรก, น้ำสะอาดขาดแคลน, และเกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารและเครื่องดื่มบ่อยๆ
เศรษฐีจีนบางคนให้เหตุผลว่าต้องการหาสัญชาติต่างประเทศให้แก่ลูกหลานของพวกตน เพราะนี่จะช่วยให้ลูกหลานเหล่านี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากมาย ในการเดินทางและในการไปศึกษายังต่างแดน
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
Chinese millionaires play ‘Great Escape’
By Asia Unhedged
14/07/2015
รายงานการศึกษาของ “นิวเวิลด์เวลธ์” ซึ่งนำออกเผยแพร่เร็วๆ นี้ระบุว่า มีเศรษฐีชาวจีนออกจากประเทศบ้านเกิดไปพำนักอาศัยอย่างถาวรในต่างแดน เป็นจำนวนสูงกว่าผู้มั่งคั่งร่ำรวยชาติอื่นๆ เหตุผลสำคัญก็คือเรื่องของภาษี และคุณภาพชีวิต
คนฐานะมั่งคั่งร่ำรวยซึ่งออกจากประเทศบ้านเกิดไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน เป็นสิ่งที่พบเห็นกันอยู่ทั่วโลก ทว่าในระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา เศรษฐีจีนซึ่งทำเช่นนี้มีจำนวนสูงกว่าเศรษฐีของชาติอื่นๆ ทั้งนี้ตามรายงานการศึกษาชิ้นใหม่ที่มุ่งติดตามว่าคนมั่งคั่งร่ำรวยเลือกไปพำนักอาศัยกันที่ไหนบ้าง (ดูรายละเอียดของรายงานฉบับนี้ได้ที่ http://nebula.wsimg.com/33c082a103704a172bf3bd8d8288db65?AccessKeyId=70E2D0A589B97BD675FB&disposition=0&alloworigin=1)
รายงานฉบับนี้ซึ่งมาจาก “นิวเวิลด์เวลธ์” (New World Wealth) บริษัทที่มุ่งให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาคความมั่งคั่งร่ำรวยของทั่วโลก มีการจัดทำบัญชีรายชื่อ 8 ประเทศซึ่งมีเศรษฐีเงินล้านเข้า/ออก สูงที่สุด ในช่วงระหว่างปี 2000 ถึง 2014
(หมายเหตุผู้แปล - เศรษฐี หรือตามศัพท์ที่รายงานฉบับนี้ใช้คือ “บุคคลผู้มีมูลค่าสุทธิสูง” high net worth individual ใช้อักษรย่อว่า HNWI นั้น Wikipedia อธิบายว่า ตามคำจำกัดความที่ใช้กันในโลกตะวันตก โดยเฉพาะในอเมริกา ตลอดจนในแวดวงธุรกิจธนบดีธนกิจ หรือ Private Banking Business ปกติแล้วหมายถึงบุคคลที่มีฐานะทางการเงินซึ่งสามารถใช้เพื่อการลงทุนได้ นั่นก็คือ มีสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่นับรวมที่อยู่อาศัยแห่งหลัก เป็นจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป)
หากดูกันที่บัญชีรายชื่อ 10 ประเทศซึ่งมีจำนวนเศรษฐีเป็นจำนวนมากที่สุดแล้ว จีนมาเป็นอันดับ 5 ด้วยจำนวน HNWI 608,500 คนในปี 2014 สำหรับที่ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเศรษฐีสินทรัพย์เงินล้านทั้งสิ้นราว 4.1 ล้านคน
ทว่า สำหรับบัญชีรายชื่อประเทศซึ่งพวก HNWI กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนา หรือก็คือโยกย้ายไปพำนักอาศัยอย่างถาวรในต่างแดนกันสูงที่สุดแล้ว จีนอยู่ในอันดับ 1 ด้วยจำนวน 91,000 คน ส่วนอันดับ 2 ในบัญชีรายชื่อนี้ได้แก่อินเดีย โดยมีเศรษฐีแดนภารตะ 61,000 คนจากที่มีอยู่ทั้งสิ้น 226,800 คน ทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ HNWI ชาวอินเดียนั้นมีความโน้มเอียงที่จะโยกย้ายไปพำนักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, และออสเตรเลีย
ในส่วนของเศรษฐีจีน รายงานของนิวเวิลด์เวลธ์ระบุว่า จุดหมายปลายทางที่นิยมโยกย้ายไปพำนักอาศัยกันได้แก่สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง, สิงคโปร์, และสหราชอาณาจักร ฮ่องกงนั้นถือเป็นทางเลือกยอดนิยมอันดับ 3 สำหรับการโยกย้ายไปอยู่ของพวก HNWI โดยรวม ด้วยจำนวนผู้ที่เข้าไปพำนักสุทธิเท่ากับ 29,000 คน ทั้งนี้กว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นเศรษฐีจีน
เหตุผลประการหนึ่งซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ มีความยินดีปรารถนาที่จะได้ต้อนรับ HNWI ชาวจีนไปพำนักกันเพิ่มมากขึ้น ก็คือ พวกเขาจะเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ตลอดจนจับจ่ายข้าวของราคาแพงต่างๆ นอกจากนั้นพวกเขายังทำการลงทุนอย่างอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เศรษฐกิจของท้องถิ่น
“ในจำนวนวีซ่าประเภทนักลงทุน ซึ่งออกโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว ปรากฏว่าเป็นการออกให้พลเมืองจีนถึงราวๆ 8 ใน 10” ยาฮู! ไฟแนนซ์ (Yahoo! Finance) หรือก็คือข่าวการเงินในเว็บไซต์ยาฮู ระบุ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://news.yahoo.com/chinas-millionaires-leaving-china-080000378.html) และรายงานต่อไปว่า “จอร์จ ออสบอร์น (George Osborne) รัฐมนตรีคลังสหราชอาณาจักร ถึงกับประกาศว่า ต่อไปนี้สหราชอาณาจักรควรต้องโฟกัสไปที่การอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น สำหรับการที่นักลงทุนชาวจีนจะเดินทางเข้ามา”
รายงานของนิวเวิลด์เวลธ์บ่งชี้ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐีจีนพากันเลือกไปพำนักอาศัยในต่างแดน ได้แก่ระบบภาษีในดินแดนมังกรที่เข้มงวดเรียกเก็บอัตราสูงๆ อย่างไรก็ดี ยาฮู! ไฟแนนช์ บอกว่า ยังมีสาเหตุประการอื่นๆ อีก ได้แก่ การที่พ่อแม่ผู้ปกครองชาวจีนมีความกังวลที่จะต้องเลี้ยงดูลูกหลานในสภาพแวดล้อมที่อากาศสกปรก, น้ำสะอาดขาดแคลน, และเกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารและเครื่องดื่มบ่อยๆ
เศรษฐีจีนบางคนให้เหตุผลว่าต้องการหาสัญชาติต่างประเทศให้แก่ลูกหลานของพวกตน เพราะนี่จะช่วยให้ลูกหลานเหล่านี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากมาย ในการเดินทางและในการไปศึกษายังต่างแดน
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)