เอเอฟพี – เรือนจำเม็กซิโกเผยภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ราชายาเสพติด โจอาควิน “เอลชาโป” กุซมัน เดินงุ่นง่านอยู่ในห้องขัง ก่อนที่จะก้มตัวลงด้านหลังผนังเตี้ยๆ ของห้องอาบน้ำและหายตัวไป
คลิปวีดีโอที่ถูกเผยแพร่วันนี้(15) จะแสดงให้เห็นว่า กุซมัน เดินวนไปวนมาในห้องขังถึง 3 รอบ ก่อนจะก้มตัวลงไปข้างๆ อ่างน้ำทั้งที่ยังสวมชุดนักโทษอยู่ แต่ มอนเต อเลคันโดร รูบิโด อธิบดีความมั่นคงแห่งชาติเม็กซิโก ชี้ว่า พฤติกรรมลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับผู้ต้องขัง
กล้องวงจรปิดซึ่งจับภาพความเคลื่อนไหวของนักโทษตลอด 24 ชั่วโมงไม่สามารถมองเห็นช่องอุโมงค์บนพื้นห้องน้ำที่ กุซมัน หย่อนตัวลงไปเมื่อคืนวันเสาร์(11) และยังไม่เห็นด้วยว่าเจ้าพ่อยาเสพติดรายนี้ถอดอุปกรณ์ติดตามตัวที่สวมข้อมือออกตอนไหน
ทางเรือนจำติดตั้งกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งไว้เหนือกำแพงด้านนอก และมีอีกตัวอยู่ในห้องขังหันตรงไปที่โซนอาบน้ำ ทว่ามีจุดอับอยู่ 2 จุดเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่นักโทษ
รูบิโด ระบุว่า กล้องวงจรปิดจับภาพ กุซมัน ได้เป็นครั้งสุดท้ายในเวลา 20.52 น. แต่ไม่เปิดเผยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่กว่าผู้คุมจะกดกริ่งสัญญาณแจ้งว่านักโทษหายไป
การที่ กุซมัน สามารถแหกเรือนจำความมั่นคงสูงได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 14 ปีสร้างความอับอายไม่น้อยต่อรัฐบาลประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนญา เนียโต ซึ่งเพิ่งออกมาแถลงผลงานจับเจ้าพ่อยาเสพติดเบอร์ 1 ของโลกเข้าคุกได้เมื่อ 17 เดือนมานี้เอง
ขณะที่ปฏิบัติการล่าตัว กุซมัน ล่วงเข้าสู่วันที่ 3 อัยการเม็กซิโกก็ได้ออกคำสั่งควบคุมตัวเจ้าหน้าที่เรือนจำอัลติปลาโนจำนวน 22 คนซึ่งต้องสงสัยว่ามีส่วนช่วยนักโทษแหกคุก ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 12 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันอาทิตย์(12) ได้รับการปล่อยตัว
อุโมงค์ความยาว 1.5 กิโลเมตรที่ กุซมัน ใช้หลบหนีไปโผล่ออกที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่ง
รูบิโด ชี้ว่า ผู้คุมเรือนจำได้วิทยุแจ้งเหตุฉุกเฉินทันทีที่ทราบว่า กุซมัน หายตัวไป หลังจากนั้นจึงมีการสั่งปิดเรือนจำห้ามคนเข้า-ออก
อย่างไรก็ตาม อัยการเม็กซิโกอยู่ระหว่างสอบสวนว่า ทางเรือนจำได้ปฏิบัติตามขั้นตอนในกรณีมีนักโทษแหกคุกอย่างถูกต้องรัดกุมหรือไม่
มิเกล อังเกล โอโซริโอ ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแดนจังโก้ ยืนยันข้อสันนิษฐานส่วนตัวว่า งานนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่เรือนจำรู้เห็นเป็นใจ “อย่างแน่นอน”
ทางการเม็กซิโกประกาศรางวัลนำจับ กุซมัน สูงถึง 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 130 ล้านบาท) เพิ่มจากอัตราปกติสำหรับอาชญากรรายสำคัญของประเทศถึง 1 เท่าตัว