เอเอฟพี - อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำเม็กซิโก 13 คนถูกตัดสินจำคุกฐานมีส่วนสมรู้ร่วมคิดปล่อยราชายาเสพติดเบอร์ 1 ของประเทศ โจอาควิน “เอลชาโป” กุซมัน หลบหนีออกจากเรือนจำความมั่นคงสูงได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 14 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคม
แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการเม็กซิโกบอกกับเอเอฟพีว่า ในบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกจำคุกในครั้งนี้ ได้แก่ ลีโอนอร์ การ์เซีย ผู้อำนวยการเรือนจำความมั่นคงสูง เอล-อัลติปลาโน ซึ่งเป็นสถานที่คุมขัง กุซมัน ก่อนจะหลบหนี รวมถึง เซลินา โอเซกูเอรา อดีตผู้ประสานงานเรือนจำแห่งชาติ
สำหรับเจ้าหน้าที่อีก 11 คนมีทั้งผู้คุมและบุคลากรของเรือนจำเอล-อัลติปลาโน ซึ่งนับจากวันนี้พวกเขาจะต้องแปรสภาพเป็น “นักโทษ” ของเรือนจำดังกล่าว ส่วน โอเซกูเอรา และ การ์เซีย จะถูกส่งไปยังเรือนจำสตรีในเมืองเตปิก รัฐนายาริต ทางตะวันตกของแดนจังโก้
ทางการเม็กซิโกได้สั่งพักงาน โอเซกูเอรา ทันทีที่มีข่าวว่าหัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติด “ซินาโลอา” แหกคุกรอบสอง เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม หลังจากนั้น ผู้พิพากษาก็ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ ในวันเดียวกัน
พนักงานสอบสวนเม็กซิโกชี้ว่า กุซมัน ซึ่งเป็นราชายาเสพติดที่รัฐบาลจังโก้ต้องการตัวมากที่สุด ได้รับ “ข้อมูลวงใน” ที่ช่วยให้หลบหนีได้สำเร็จ และอาจได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำด้วย
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ กุซมัน เดินงุ่นง่านอยู่ในห้องขัง ก่อนที่จะก้มตัวลงด้านหลังผนังเตี้ยๆ ของห้องอาบน้ำ และหายตัวไปดื้อๆ
การหลบหนีอาญาแผ่นดินของ กุซมัน ครั้งนี้สร้างความอับอายอย่างยิ่งต่อรัฐบาลประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนญา เนียโต ซึ่งออกมาแถลงผลงานจับเจ้าพ่อยาเสพติดเบอร์ 1 ของโลกเข้าคุกได้เมื่อ 17 เดือนก่อนหน้านั้น
กุซมัน สร้างวีรกรรมแหกคุกครั้งแรกเมื่อปี 2001 และถูกตามจับกลับมาได้ในอีก 13 ปีให้หลังที่มาซัตลัน เมืองตากอากาศชื่อดังบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ทางการเม็กซิโกประกาศรางวัลนำจับ กุซมัน สูงถึง 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 130 ล้านบาท) เพิ่มจากอัตราปกติสำหรับอาชญากรรายสำคัญของประเทศถึง 1 เท่าตัว