รอยเตอร์ - นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายของกรีซ เสี่ยงเผชิญกับการก่อขบถภายในพรรคของตนเองในวันอังคาร (14 ก.ค.) ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวของลูกพรรคต่อกรณีที่เขายอมจำนนข้อเรียกร้องของเยอรมนี สำหรับหนึ่งในแพ็คเกจรัดเข็มขัดครั้งกว้างขวางครอบคลุมที่สุดที่กำหนดต่อรัฐบาลใดๆ รัฐบาลหนึ่งในยูโรโซน
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบรรลุข้อตกลงที่ได้เห็นกรีซยอมรับข้อเรียกร้องให้ดำเนินการปฏิรูปอันเข้มงวด และถึงขั้นสูญเสียอำนาจอธิปไตยในการจัดการสินทรัพย์ให้แก่การกำกับตรวจสอบจากภายนอก เพื่อแลกเปลี่ยนกับการเริ่มกระบวนการหารือที่จะมีการอนุมัติแพ็คเกจเงินกู้ช่วยไม่ให้ล้มละลายก้อนที่ 3 มูลค่า 86,000 ล้านยูโร (95,290 ล้านดอลลาร์) ข้อสงสัยก็ปรากฎตัวขึ้นมาว่านายซีปราสจะรักษารัฐบาลของเขาให้อยู่รอดได้อย่างไร
เงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดโดยเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศซึ่งนำโดยเยอรมนี ณ ที่ประชุมซัมมิทฉุกเฉินที่ใช้เวลาเจรจานานตลอดทั้งคืน บังคับให้นายซีปราส ต้องละทิ้งคำสัญญาระหว่างหาเสียงเลือกตั้งว่าจะยุติมาตรการรัดเข็มขัด นอกจากนั้นหนำซ้ำเขายังจำเป็นต้องผ่านกฎหมายตัดลดบำนาญ ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม การลดค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติหากงบประมาณกรีซไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ขณะเดียวกันยังจะต้องยอมนำสินทรัพย์ต่างๆของรัฐกรีซรวมเป็นมูลค่า 50,000 ล้านยูโร เป็นต้นว่า ธนาคารของกรีซที่ถูกโอนมาเป็นของรัฐภายหลังการเพิ่มทุน เข้ามาสู่กองทุนทรัสต์ซึ่งรัฐบาลกรีซจะเข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้ โดยสินทรัพย์เหล่านี้ที่สำคัญแล้วจะถูกตระเตรียมสำหรับนำไปขายภายใต้การดูแลของเหล่าเจ้าหนี้ต่างประเทศเพื่อนำเงินมาชำระหนี้สินให้ลดต่ำลง
นอกจากนั้น ซีปราสยังต้องยอมให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีบทบาทอย่างสมบูรณ์ในแพกเกจความช่วยเหลือก้อนที่ 3 หลังจากที่เขาเคยคัดค้านมาโดยตลอด และทั้งนี้ทั้งนั้นเอเธนส์ต้องนำแพ็กเก็จทั้งหมดนี้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาภายในวันพุธ (15 ก.ค.)
ตัวของนายซีปราสเองได้รับเลือกตั้งเมื่อ 5 เดือนก่อน จากนโยบายยุติมาตรการรัดเข็มขัดที่ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 5 ปี ดังนั้นเพื่อให้ข้อตกลงนี้ผ่านรัฐสภาทันเส้นตายในวันพุธ (15 ก.ค.) เขาจึงต้องพึ่งเสียงโหวตจากพรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนยุโรป กระพือข้อสงสัยเกี่ยวกับอนาคตรัฐบาลของเขาและเปิดโอกาสแห่งความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
คาดหมายว่าที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาของพรรคไซรีซาในตอนเช้าวันอังคาร (14 ก.ค) อาจได้เห็น ปานากิโอติส ลาฟาซานิส รัฐมนตรีพลังงานและดิมิทริส สตราตูลิส รัฐมนตรีช่วยแรงงาน ถูกปลดจากตำแหน่ง เนื่องจากมีจุดยืนต่อต้านข้อตกลงช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังอาจมีการเปิดศึกกับ ชอย คอนสแตนติโพลโลว ฝ่ายซ้ายหัวแข็ง ที่ขัดขืนนายซีปราสต่อข้อตกลงกู้ยืมเช่นกัน ซึ่งอาจหาทางขัดขวางทางระเบียบการต่อการลงมติเห็นชอบแพ็คเกจรัดเข็มขัดก็เป็นได้