เอเอฟพี - ค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น “ฮอนด้า” ระบุในวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ว่ากำลังเรียกคืนรถยนต์อีก 4.5 ล้านคันทั่วโลก เนื่องมาจากปัญหาถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดยบริษัท “ทาคาตะ”
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้ยอดรวมการเรียกคืนรถยนต์ของฮอนด้าเพิ่มขึ้นไปเป็น 24.5 ล้านคัน นับตั้งแต่พบการทำงานผิดพลาดของถุงลมนิรภัยที่มีส่วนเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตไปแล้ว 8 รายทั่วโลก
“เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น เรากำลังตรวจสอบรถยนต์ในท้องตลาดที่เชื่อมโยงกับปัญหานี้ แล้วเราก็พบว่าระบบสูบลมทำการอัดแก๊สเข้าไปด้วยความหนาแน่นไม่คงที่ ซึ่งเรากังวลว่านั่นอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้” โฆษกฮอนด้ากล่าว
“มันเป็นมาตรการป้องกันภัยและไม่เหมือนกับการเรียกคืนตามปกติครั้งอื่นๆ เราไม่อาจรอจนได้ผลการวิจัยที่สมบูรณ์” เขากล่าว
ในเดือนมิถุนายน ฮอนด้าได้ปรับแก้ผลประกอบการประจำปีของปีงบประมาณที่แล้วให้ลดลง 14 เปอร์เซ็นต์ โดยโทษว่าเป็นเพราะการเรียกคืนรถยนต์เพิ่มมากขึ้น จากปัญหาถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดย “ทาคาตะ”
ด้านคู่แข่งของฮอนด้า อย่างเช่นโตโยต้า และนิสสัน ก็มีการเรียกคืนรถยนต์เพิ่มเติมในเดือนที่แล้วเช่นกัน ทำให้ยอดรวมการเรียกคืนรถของทั้งคู่มีมากกว่า 10 ล้านคัน
ขณะที่ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยเจ้าปัญหาอย่างทาคาตะก็กำลังถูกเล่นงานจากวิกฤตปัญหานี้ ทั้งการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงถูกหน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาสืบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่าพวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่าผลิตภัณฑ์มีปัญหาแต่อุบเงียบเอาไว้
ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์กว่า 10 รายทั่วโลก ต้องพากันเรียกคืนรถยนต์แค่เฉพาะในสหรัฐฯ ก็รวมกันสูงถึงประมาณ 34 ล้านคัน เพื่อเอามาเปลี่ยนระบบสูบลม นับเป็นเป็นการเรียกคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา