เอเอฟพี - ค่ายรถแดนปลาดิบ “โตโยต้า-นิสสัน-มิตซูบิชิ” ได้แจ้งในวันพฤหัสบดี (25 มิ.ย.) เรื่องการเรียกคืนรถยนต์เพิ่มอีกกว่า 3 ล้านคันทั่วโลก อันเนื่องมาจากปัญหาถุงลมนิรภัย
โตโยต้าระบุว่า จะเรียกคืนรถยนต์อีก 2.86 ล้านคัน ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าบางรุ่น ขณะที่นิสสันบอกว่าจะเรียกคืนรถยนต์ 198,000 คัน
นอกจากนี้ “มิตซูบิชิ” ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นอีกราย ก็ยังได้แจ้งในวันเดียวกันว่า จะเรียกคืนรถยนต์ 120,000 คัน อันเนื่องมาจากปัญหาถุงลมนิรภัยของบริษัท ทาคาตะ เช่นกัน
ชิเงฮิซะ ทาคาดะ ประธานและซีอีโอของทาคาตะ ได้ออกมากล่าวขอโทษในวันเดียวกัน สำหรับวิกฤตถุงลมนิรภัยจากบริษัทของเขา ซึ่งนับเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรก ตั้งแต่วิกฤตถุงลมนิรภัยได้เกิดขึ้น
“ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง สำหรับผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากถุงลมนิรภัยของบริษัทเรา รวมถึงต้องขอโทษต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนรถยนต์” ประธานทาคาตะ กล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงโตเกียว
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ทาคาตะได้เห็นพ้องที่จะให้มีการเรียกคืนรถยนต์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ โตโยต้าได้เคยบอกว่า มีรถยนต์ 12.66 ล้านคันได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม นั่นยังไม่มากเท่ากับ “ฮอนด้า” ค่ายรถที่ใหญ่เป็นลำดับ 3 ในญี่ปุ่น ที่มีการเรียกคืนรถยนต์มากกว่า 19 ล้านคัน
ก่อนมีการประกาศเรียกคืนรถยนต์ครั้งล่าสุดนี้แค่ไม่กี่ชั่วโมง ทาคาตะ ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นในกรุงโตเกียว โดยมีบรรดาผู้บริหารมาก้มหัวขอโทษในเรื่องราคาหุ้นและเงินปันผลที่ลดลงมา
บริษัทซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตถุงลมนิรภัยรายใหญ่ของโลกอย่างทาคาตะ เดิมทีมีแผนจะนำการประชุมผู้ถือหุ้นมาถ่ายทอดสดทางอินเตอร์ แต่ก็มีการยกเลิกแผนนี้ไปเสียก่อน
เมื่อวันจันทร์ ฮอนด้าได้ยืนยันถึงการพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ที่เกี่ยวกับการระเบิดของถุงลมนิรภัย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากปัญหานี้ขยับไปอยู่ที่ 8 ราย
ผู้ตายรายล่าสุดนี้เป็นหญิงในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ด้วยเศษโลหะที่กระเด็นออกมาจากการระเบิดของถุงลมนิรภัยในรถยนต์ฮอนด้า “ซีวิค” รุ่นปี 2001