เอเอฟพี - ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่น “มาสด้า” ระบุในวันศุกร์ (5 มิ.ย.) ว่าได้ดำเนินการเรียกคืนรถยนต์อีก 1.6 ล้านคันซึ่งติดตั้งถุงลมนิรภัยที่มีความเสี่ยงว่าจะทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทำให้ยอดรวมการเรียกคืนรถของค่ายนี้อยู่ที่ประมาณ 2.02 ล้านคัน
มาสด้าระบุว่า การเรียกคืนรถยนต์ครั้งล่าสุดนี้เป็นรถในอเมริกา 465,000 คัน กับในญี่ปุ่น 76,000 คัน รุ่นที่มีการผลิตช่วงปี 2003-2008 แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเลขที่เหลือเป็นรถในประเทศใด
การประกาศครั้งนี้นับเป็นรอบล่าสุดของวิกฤตถุงลมนิรภัยของบริษัท ทาคาตะ ที่ดูจะหนักหนามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วมีการเรียกคืนรถยนต์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ทำให้มียอดตัวเลขการเรียกคืนรถยนต์มีเกือบ 34 ล้านคันเข้าไปแล้ว
สำหรับปัญหาที่พบในถุงลมนิรภัยของทาคาตะนั้น เกี่ยวกับระบบการอัดลมเข้าสู่ถุงลมนิรภัยที่ผิดปกติจนทำให้เกิดการระเบิด แล้วปล่อยเศษโลหะเข้าใส่คนขับและผู้โดยสาร
มีอย่างน้อย 6 รายที่เสียชีวิต กับผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ด้วยปัญหาจากถุงลมนิรภัยของทาคาตะ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในค่ายรถหลายแห่ง เช่น ฮอนด้า, โตโยต้า, เจนเนอรัล มอเตอร์ส, บีเอ็มดับเบิลยู ฯลฯ
การเรียกคืนรถยนต์เพิ่มเติมของมาสด้า ครอบคลุมไปถึงรถยนต์รุ่น Mazda6 ที่ผลิตช่วงปี 2003-2008, รถยนต์รุ่น RX-8 ที่ผลิตช่วงปี 2004-2008, Mazdaspeed6 ช่วงปี 2006-2007, กระบะ Mazda B-series ช่วงปี 2004-2006
ข่าวนี้ทำให้ราคาหุ้นของมาสด้าลดลง 1.05 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ราคา 2,689 เยนต่อหุ้น ในการซื้อขายภาคบ่ายของวันศุกร์ ส่วนหุ้นทาคาตะลดลง 1.75 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ราคา 1,346 เยนต่อหุ้น
