เอเอฟพี - ทีมสอบสวนไต้หวันเผยรายงานล่าสุด ระบุกัปตันสายการบินทรานส์เอเชีย “ดึงคันเร่งผิด” ปิดเครื่องยนต์ที่ยังเหลือใช้การได้อยู่เพียงตัวเดียว จนเป็นเหตุให้เครื่องบินพุ่งชนสะพานและตกลงกลางแม่น้ำคีลุง คร่าชีวิตผู้โดยสารรวม 43 ศพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สายการบินทรานส์เอเชีย เที่ยวบิน GE235 ประสบอุบัติเหตุตกลงกลางแม่น้ำทางตอนเหนือของไต้หวัน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังออกเดินทางจากสนามบินซงชานในกรุงไทเปได้ไม่กี่นาที ทำให้ผู้โดยสาร 53 คน และลูกเรืออีก 5 คนบนเครื่องเสียชีวิตเกือบทั้งหมด รอดมาได้เพียง 15 คน
สภาความปลอดภัยการบินแห่งไต้หวันแถลงว่า จากการตรวจสอบกล่องบันทึกข้อมูลการบินได้ยินเสียงกัปตันพูดว่า “อ้าว... ดึงคันเร่งผิดอัน” ก่อนที่เครื่องจะตก
พนักงานสอบสวนชี้ว่า เครื่องบิน ATR 72-600 ลำนี้เกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องไปตัวหนึ่ง แต่ความผิดพลาดของนักบินส่งผลให้เครื่องยนต์อีกตัวที่ยังใช้การได้พลอยดับลงไปด้วย
กล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งซึ่งแล่นอยู่บนทางยกระดับในเวลานั้นสามารถจับภาพเครื่องบินที่ลดระดับในสภาพเอียงกะเท่เร่ ก่อนที่ส่วนหางจะเกี่ยวกับขอบสะพานและพุ่งตกลงไปในแม่น้ำเบื้องล่าง
ข้อมูลเบื้องต้นจากกล่องดำบ่งชี้ว่า เครื่องยนต์ฝั่งขวาของเที่ยวบิน GE235 เกิดประกายไฟลุกไหม้ หลังเทคออฟออกจากสนามบินไปได้ราวๆ 2 นาที จากนั้นเครื่องยนต์ฝั่งซ้ายก็ถูกนักบินปิดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
พนักงานสอบสวนระบุว่า เมื่อเครื่องยนต์ดับลงทั้งคู่ เครื่องบินจึงสูญเสียการทรงตัวและทิ้งดิ่งลงสู่พื้นอย่างไม่สามารถจะแก้ไขได้อีก
“เราเองก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไรนักบินจึงทำเช่นนั้น และนั่นคือปริศนาข้อใหญ่ที่เราจะต้องหาคำตอบ เพื่อสรุปผลการวิเคราะห์ฉบับสมบูรณ์” โทมัส หวัง ประธานสภาความปลอดภัยการบินแห่งไต้หวันกล่าว
ผลการสอบสวนฉบับร่างคาดว่าจะเผยแพร่ได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ส่วนรายงานฉบับสมบูรณ์จะเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน ปี 2016
ทางสภาฯ ย้ำว่า สิ่งที่นำมาเปิดเผยวันนี้ (2) เป็นเพียง “ข้อเท็จจริง” เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่มีการสรุปสาเหตุ หรือระบุตัวบุคคลที่จะต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียครั้งนี้