เอเจนซี/รอยเตอร์ส - สืบเนื่องจากกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส (TransAsia Airways) ตกลงแม่น้ำของกรุงไทเปในสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรืออย่างน้อย 42 ราย จากทั้งหมด 58 คน นำไปสู่การตรวจสอบคุณภาพ ‘นักบิน’ ซึ่งผลลัพธ์นั้นน่าตกใจด้วยพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งสอบตก!
สถาบันการบินพลเรือน (CAA) ของไต้หวันเปิดเผย (11 ก.พ.) ว่านักบินประจำเครื่องบินใบพัดสองเครื่องยนต์เทอร์โบพรอบ รุ่น ATR ของสายการบินทรานส์เอเชียฯ จำนวน 10 นาย ไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์ที่วัดประสิทธิภาพในการรับมือกรณีฉุกเฉินหากเครื่องยนต์ของเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้อง
ส่วนนักบินอีก 19 นาย ไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบดังกล่าว เนื่องจากขอลาป่วยหรือไม่ได้พำนักอยู่ในไต้หวันระหว่างมีการทดสอบ โดยเบื้องต้นนักบินทั้ง 29 นายข้างต้นถูกสั่งพักงานเป็นการชั่วคราวแล้ว ทั้งนี้สายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส มีนักบินปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งหมด 49 นาย
“บางคนเตรียมตัวสำหรับการทดสอบเกือบทั้งคืน เพราะผลลัพธ์จะส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในอาชีพอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง” นักบินรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าว “คนที่สอบตกจะถูกพักงานเป็นเวลาหนึ่งเดือน และให้เวลาอีกเดือนเพื่อเตรียมตัวสอบใหม่ หากยังสอบตกอีกก็จะถูกไล่ออก”
ด้านรัฐบาลไต้หวันออกคำสั่งให้ทุกสายการบินท้องถิ่นดำเนินการพิจารณาทบทวนกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางการบินอย่างเข้มงวด โดยนายเฉิน เจียนอี้ว์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีนใกล้เข้ามา … เราได้แจ้งให้ทุกสายการบินตรวจเช็คการดำเนินงานอย่างละเอียดรอบคอบ”
ทางการไต้หวันสั่งให้มีการทดสอบคุณภาพนักบินทุกคนของสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุเครื่องบินโดยสาร รุ่น ATR 72-600 เที่ยวบิน GE235 ของสายการบินฯ สูญเสียการควบคุมกลางอากาศจนบินฉวัดเฉวียนผ่าหมู่ตึกสูง ก่อนแฉลบชนสะพานทางหลวงและตกลงในแม่น้ำคีลุงทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ราย
ผลการตรวจสอบกล่องบันทึกข้อมูลทางการบิน หรือกล่องดำในเบื้องต้นชี้ว่า เครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้ หลังจากทะยานบินออกจากท่าอากาศยานซงซันของกรุงไทเปได้ไม่กี่นาที ขณะที่เครื่องยนต์อีกตัวถูกนักบินสั่งปิดการทำงาน และแม้จะพยายามเปิดการทำงานอีกครั้งก็ไม่เป็นผล ซึ่งจุดนี้ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า “นักบินอาจปิดเครื่องยนต์ผิดตัวหรือไม่?” เพราะปกติเครื่องบินยังคงสามารถบินต่อไปได้แม้มีเครื่องยนต์ทำงานเพียงตัวเดียว
อนึ่ง เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมหนที่สองของทรานส์เอเชีย ที่เกิดขึ้นในรอบเจ็ดเดือนหลังจากเครื่องบินโดยสารรุ่นเดียวกัน เที่ยวบิน GE222 ตกกระแทกพื้นบริเวณหมู่บ้านซีชุน ใกล้สนามบินหม่ากงบนเกาะเผิงหู่ของไต้หวัน ในเดือนก.ค. ปีก่อน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 48 ราย
ขณะที่บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตปฏิเสธรับเงินชดเชยจากสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส หลังจับเข่าเจรจากันนานราวสามชั่วโมงในวันพุธที่ผ่านมา โดยนายหลิว จงจี้ ตัวแทนของสายการบินฯ กล่าวว่า “เราเสนอเงินจำนวน 13.5 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ให้กับครอบครัวของเหยื่อแต่ละราย และยังจะจ่ายอีกราว 1.2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เป็นเงินช่วยเหลืองานฌาปนกิจศพ รวมเป็นเงินราว 14.9 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 15 ล้านบาท)”
หลิวเสริมว่าแม้จะมีการปฏิเสธรับเงินชดเชย แต่ทางสายการบินจะยังคงติดต่อสื่อสารกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป “เราเต็มใจจัดส่งเจ้าหน้าที่ของเราไปยังบ้านเกิดของเหยื่อเพื่อเสนอความช่วยเหลือ ทั้งยังจะช่วยจัดหาทนายให้ เพื่อรับประกันสิทธิอันชอบธรรม”