เอเจนซีส์ - สำนักงานกำกับการบินพลเรือนไต้หวันได้สั่งแขวนชั่วคราวนักบินจำนวน 29 คนของสายการบินทรานส์เอเชีย หลังไม่ผ่านการประเมินผลมาตรฐานจัดการวิกฤต ซึ่งเกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังเหตุสลดเครื่องบินทรานส์เอเชียตกลงในแม่น้ำ และทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนอย่างน้อย 42 คน
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (12 ก.พ.) ว่า นักบินจำนวน 10 คนของบริษัททรานส์เอเชียถูกสั่งห้ามบิน หลังสอบตกมาตรฐานจัดการเหตุฉุกเฉิน และนักบินจำนวนอีก 19 คนถูกสั่งแขวนจนกว่าพวกเขาจะเข้ารับการทดสอบ โดยคนทั้งหมดนี้จากนักบินทั้งหมด 49 คนที่ถูกสั่งให้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานการจัดการเหตุฉุกเฉินโดยการสอบสัมภาษณ์ปากเปล่า โดยถือเป็นหนึ่งในการจัดการของไต้หวันในการรับมือ หลังเกิดเหตุเครื่องบินทรานส์เอเชียตกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กำกับการบินไต้หวันชี้ว่า สำหรับนักบินที่สอบไม่ผ่านทุกคน ต้องเข้ารับการฝึกใหม่อีกครั้ง
ในขณะที่บริษัทสายการบินทรานส์เอเชียแถลงว่า นักบินทั้งหมดที่ต้องเข้ารับการฝึกใหม่อีกครั้งล้วนมีชั่วโมงการบินโดยเฉลี่ยเกือบ 7,000 ชั่วโมงต่อคน ทางบริษัทได้ติดต่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านกำกับความปลอดภัยทางการบินต่างชาติแล้ว และคาดว่าจะสามารถเริ่มต้นการฝึกกับซิมูเลเตอร์ได้ในเดือนหน้า รายงานจากแถลงการณ์ของทรานส์เอเชีย
นอกจากนี้ ทางบริษัท ยังเปิดเผยถึงเหตุเครื่องบินตกว่า ทางทรานส์เอเชียได้ใช้เม็ดเงินร่วม 1.2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ 25,000 ปอนด์ เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับงานศพผู้เสียชีวิตชาวไต้หวันจำนวน 12 คน และผู้เสียชีวิตชาวจีน 13 คน และผู้ประสบเหตุอีก 51 คนได้รับค่าชดเชยราว 200,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 4,100 ปอนด์
สื่ออังกฤษชี้ว่า อุบัติเหตุทางอากาศล่าสุดถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นซึ่งมีสายการบินทรานส์เอเชียเกี่ยวข้องภายในเวลาไม่ถึงปี และทำให้ผู้คนเกิดความวิตกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินไต้หวัน โดยในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไต้หวัน เหมา จื้อกั๋ว กล่าวว่า ไต้หวันจำเป็นต้องเพิ่มการฝึกฝนการบินพลเรือนซึ่งมีชีวิตผู้โดยสารเป็นเดิมพัน