เอเจนซีส์ - เครื่องบินขนส่งทางทหารของอินโดนีเซีย ตกลงกลางย่านที่อยู่อาศัยในเมดาน เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศเมื่อวันอังคาร (30 มิ.ย.) หลังขึ้นจากสนามบินได้เพียง 2 นาที เจ้าหน้าที่เผยนักบินติดต่อขอบินกลับเนื่องจากเครื่องมีปัญหา ล่าสุดยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 116 ราย
ภาพข่าวในทีวีเผยให้เห็นซากเครื่องบินขนส่งแบบ เฮอร์คิวลีส ซี-130 บี ซากรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ อาคารหลายหลังพังพินาศ และควันคละคลุ้ง ผู้คนหลายพันมุงดูเหตุการณ์ รถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยเร่งลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ ณ เมืองเมดาน บนเกาะสุมาตรา
พล.อ.อ.เอกัส ซูเปรียตนา ผู้บัญชาการทหารอากาศอินโดนีเซีย แถลงว่าจากรายการลำเลียงขนส่งแสดงให้เห็นว่า ในตอนที่เครื่องบินของกองทัพอากาศลำนี้โหม่งโลกนั้น มีผู้อยู่บนเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 113 คน โดยเป็นลูกเรือ 12 คน และผู้โดยสาร 101 คน ทั้งนี้เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครรอดชีวิต
“ไม่มี ไม่มี ไม่มีหรอก คนที่รอดมาได้ ผมเพิ่งกลับมาจากที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้เอง” เขาตอบคำถามของสำนักข่าวเอเอฟพี
ขณะที่เจ้าหน้าที่กาชาดรายหนึ่ง ซึ่งกำลังช่วยเหลือการค้นหาเหยื่อเคราะห์ร้าย กล่าวในคืนวันอังคารว่า สามารถนำศพ 66 ศพออกมาจากจุดเกิดเหตุ และนำไปส่งโรงพยาบาลในเมืองเมดานแล้ว
ทางด้านผู้ทำหน้าที่โฆษกให้ฐานทัพอากาศโซวอนโด ในเมดาน อันเป็นสถานที่ซึ่งเครื่องบินทหารลำนี้บินขึ้นมา บอกว่าเข้าใจว่าผู้โดยสารจำนวนมากเป็นสมาชิกในครอบครัวของคนในกองทัพ เท่าที่ทราบในตอนนี้คือมีเด็กเสียชีวิตไปด้วยอย่างน้อย 1 คน
ก่อนหน้านี้ กองทัพอินโดนีเซียแถลงว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุลำนี้กำลังปฏิบัติภารกิจในการลำเลียงอุปกรณ์ทางทหารจากเมดาน ไปยังฐานทัพตันจุง ปินัง ในหมู่เกาะเรียว ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา
ส่วนหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยในท้องถิ่นแห่งหนึ่งแจ้งว่า มีผู้ที่อยู่ภาคพื้นดินถูกสังหารไป 3 คน เมื่อเครื่องบินขนส่งอายุ 51 ปีลำนี้โหม่งโลกใกล้ๆ กับย่านที่พักอาศัยซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน โดยตรงที่เครื่องบินตกลงมาทับนั้นเป็นโรงนวดแห่งหนึ่ง และโรงแรมเล็กๆ อีกแห่งหนึ่ง
“มันบินผ่านเหนือหัวอยู่สองสามครั้ง อยู่ในระดับต่ำจริงๆ” เอลฟริดา เอฟี พนักงานต้อนรับของโรงแรมโกลเดน อีเลฟเวน ซึ่งอยู่ตรงจุดที่เครื่องบินตกเล่าให้สำนักข่าวรอยเตอร์ฟังทางโทรศัพท์ “เกิดไฟไหม้และมีควันโขมงสีดำ ครั้งที่สามที่มันบินมา มันก็โหม่งลงใส่หลังคาของโรงแรม และเกิดการระเบิดขึ้นตรงนั้นเลย”
โนวี พนักงานในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บริเวณที่เครื่องบินตก เล่าว่า ได้ยินเสียงและเห็นเครื่องบินโฉบลงต่ำมากก่อนตก เช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้นอีกคนบอกว่า ดูเหมือนเครื่องบินมีปัญหาก่อนประสบอุบัติเหตุ
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินเฮอร์คิวลีส ซี-130 บีลำนี้ ขึ้นจากฐานทัพอากาศโซวอนโด ในเมดาน เมื่อเวลา 12.08 น.ตามเวลาท้องถิ่นของอินโดนีเซีย ได้เพียง 2 นาที และห่างจากฐานทัพประมาณ 5 กิโลเมตร
พล.อ.อ.เอกัส ซูเปรียตนา เผยว่า นักบินได้แจ้งหอควบคุมว่า ขอบินกลับไปยังฐานทัพเนื่องจากเครื่องยนต์มีปัญหา แต่ระหว่างที่กำลังบินกลับนั้นเอง เครื่องบินก็ตกลงในย่านชุมชน
กระนั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศแดนอิเหนาก็ยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ใน “สภาพที่ดีมาก” และได้หยุดแวะมาแล้วหลายๆ จุดก่อนจะมาถึงเมดาน
ด้านฟูอัด บาสยา โฆษกกองทัพแถลงโดยอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า ดูเหมือนเครื่องบินระเบิดก่อนตกถึงพื้นไม่นาน
อินโดนีเซียนั้นมีสถิติความปลอดภัยทางการบินไม่ดีนัก ระหว่างปี 2007-2009 สหภาพยุโรป (อียู) สั่งห้ามสายการบินพาณิชย์แดนอิเหนาบินสู่ยุโรป เนื่องจากกังวลกับปัญหาความปลอดภัย
อุบัติเหตุร้ายแรงทางการบินครั้งล่าสุดของอินโดนีเซียเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อเครื่องบินของแอร์เอเชียตกลงในทะเลชวาพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ชีวิต ระหว่างเส้นทางสุราบายา-สิงคโปร์
สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปีที่เครื่องบินตกลงในย่านที่อยู่อาศัยของเมดาน เมืองใหญ่อันดับ 3 ของอินโดนีเซีย ที่มีประชากร 3.4 ล้านคน โดยครั้งก่อนหน้านี้คือเดือนกันยายน 2005 เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินมันดาลา แอร์ไลน์ ตกลงในชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น หลังออกจากสนามบินโพโลเนียของเมดานไม่นาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 143 คน โดย 30 คนในจำนวนนี้เป็นผู้ที่อยู่บนพื้นดิน
ขณะเดียวกัน เครื่องบินทหารของแดนอิเหนาก็มีสถิติความปลอดภัยย่ำแย่ไม่น้อยหน้า
เดือนมิถุนายน 2012 เครื่องบินแบบฟ็อกเกอร์-27 ตกลงในย่านที่อยู่อาศัยในกรุงจาการ์ตา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน
ล่าสุดเดือนเมษายนที่ผ่านมา เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ที่มีภารกิจรักษาความปลอดภัยงานประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา เกิดไฟลุกไหม้หลังบินขึ้นจากฐานทัพอากาศในจาการ์ตาไม่นาน โชคดีที่นักบินดีดตัวออกมาทันทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย