เอเอฟพี – เครื่องบินขนส่งของกองทัพอินโดนีเซียประสบอุบัติเหตุตกใส่ย่านชุมชนและระเบิดไฟลุกท่วมที่เมืองเมดานบนเกาะสุมาตราวันนี้ (30 มิ.ย.) เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 38 ราย
ชาวบ้านนับร้อยรวมถึงหน่วยกู้ภัยต่างกรูเข้าไปยังซากเครื่องบินเฮอร์คิวลิส ซี-130 ที่ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งลำ ขณะที่อาคารบ้านเรือนและรถยนต์หลายคันซึ่งอยู่ในรัศมีของการตกก็ยับเยินเหลือแต่ซาก
เอโก ตริยันดี เจ้าหน้าที่สภากาชาดอินโดนีเซียซึ่งเข้าไปช่วยเหลือทีมแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาล อาดัม มาลิก ในเมืองเมดาน ระบุว่า “เราได้รับศพเข้ามาแล้ว 38 ร่าง เป็นเด็ก 1 ราย”
“เท่าที่ได้รับรายงานเข้ามา เชื่อว่าน่าจะยังมีผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมากในที่เกิดเหตุ”
ภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่เปิดฉากขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยมีรถพยาบาลทยอยนำศพผู้เสียชีวิตออกไปจากจุดเกิดเหตุ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในอาการตื่นตระหนกก็พากันมายืนสังเกตการณ์หลังแผงเหล็กกั้นของตำรวจ
จานัวร์ ชาวบ้านวัย 26 ปี บอกกับเอเอฟพีว่า “ผมเห็นเครื่องบินมาจากทางด้านสนามบิน มันเริ่มเอียง และมีควันพุ่งออกมาตั้งแต่อยู่บนฟ้าแล้ว”
โนวี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ระบุว่า เธอได้ยินเสียงเครื่องบินดังกระหึ่มผิดปกติ เมื่อมองจากหน้าต่างออฟฟิศก็เห็นว่าเครื่องบินลำนี้บินต่ำมาก ก่อนจะร่วงลงใส่อาคารในที่สุด
กองทัพอินโดนีเซียแถลงว่า เครื่องบินขนส่งลำนี้มีผู้โดยสารอยู่ทั้งสิ้น 12 คน และเพิ่งเดินทางออกจากสนามบินได้ไม่กี่นาที
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ลูกเรือทั้ง 12 คนประกอบด้วยนักบิน 3 คน ผู้นำทาง (navigator) 1 คน และช่างเทคนิคอีก 8 คน
“เวลานี้ยังมีศพติดอยู่ในซากเครื่องบินและอาคารที่พังเสียหาย... เรากำลังทยอยนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาทีละร่างเพื่อนำส่งโรงพยาบาล” มาร์ดิอาซ ทวิฮานันโต ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่น เผย
“มีอยู่หลายศพที่ถูกบดขยี้อยู่ใต้ซากอาคารและลำตัวเครื่องบิน”
ด้าน ฟูอ๊าด บัสยา โฆษกกองทัพอิเหนา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า “เครื่องบินเฮอร์คิวลิสลำนี้กำลังขนส่งอุปกรณ์ทางทหารออกจากเมืองเมดาน” โดยทะยานขึ้นจากฐานทัพอากาศเมื่อเวลา 12.08 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลาในไทย) ก่อนจะประสบอุบัติเหตุโหม่งโลกอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากฐานทัพไปเพียง 5 กิโลเมตร