รอยเตอร์ - ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำพิพากษาวานนี้ (26 มิ.ย.) ยืนยันรัฐธรรมนูญอเมริการับรองสิทธิในการแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน ถือเป็นชัยชนะทางกฎหมายครั้งประวัติศาสตร์สำหรับขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิชาวสีม่วง
คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดมีมติ 5-4 เสียงรับรองสิทธิในการสมรสและการปกป้องที่เท่าเทียมสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าแต่ละรัฐจะไม่สามารถมีกฎหมายท้องถิ่นแบนการแต่งงานเกย์ได้อีก และทำให้คู่รักร่วมเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในทั้ง 50 รัฐทั่วอเมริกา
ทันทีที่คำตัดสินของศาลถูกประกาศออกมา คู่รักสีม่วงที่อาศัยอยู่ในรัฐที่แบนการแต่งงานเกย์ต่างจูงมือไปจดทะเบียนสมรสกันอย่างชื่นมื่น ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายรัฐยืนยันจะเคารพคำพิพากษาของศาลสูงสุด
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้เปิดแถลงข่าวที่สวนกุหลาบภายในทำเนียบขาว ระบุว่าคำพิพากษานี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในอเมริกาที่เกิดขึ้น “ราวกับสายฟ้าแลบ”
“คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับอเมริกา... เพราะเป็นการยืนยันสิทธิที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนต่างเชื่อมั่นในใจอยู่แล้ว เมื่อพลเมืองทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เราก็จะมีสังคมที่เสรีมากยิ่งขึ้น”
ในช่วงค่ำ อาคารทำเนียบขาวได้ฉายไฟสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิเกย์
หลายปีมานี้ การแต่งงานแบบรักร่วมเพศเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยรัฐแมสซาชูเซตส์เป็นรัฐแรกที่ออกกฎหมายรับรองการแต่งงานเกย์ เมื่อปี 2004
อย่างไรก็ดี คาดว่ารัฐที่เป็นฐานเสียงของพวกอนุรักษนิยมรีพับลิกันจะออกมาดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อคัดค้านคำตัดสินครั้งนี้
แอนโธนี เคนเนดี ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลสูงสุด ระบุว่า คนรักร่วมเพศที่หวังจะมีโอกาสแต่งงานสร้างครอบครัวอย่างถูกต้อง “ไม่สมควรถูกกีดกันให้ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หรือถูกตัดขาดจากสถาบันที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งในอารยธรรมมนุษย์ พวกเขาเพียงต้องการศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมในทางกฎหมาย และรัฐธรรมนูญอเมริกาก็ให้สิทธิ์นั้นแก่พวกเขา”
คำพิพากษาครั้งนี้ถือเป็นการขยายสิทธิในการแต่งงานครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 1967 ที่เกิดคดี Loving V. Virginia อันนำมาซึ่งการยกเลิกกฎหมายระดับรัฐที่ห้ามการแต่งงานข้ามเชื้อชาติ
รัฐลุยเซียนา และมิสซิสซิปปีเป็นอย่างน้อย 2 รัฐที่ประกาศจะไม่รับจดทะเบียนสมรสให้คู่รักร่วมเพศในทันที แต่จะรอไปอีก 25 วัน เพื่อให้คำพิพากษาศาลสูงสุดมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเสียก่อน
จอห์น โรเบิร์ตส ผู้พิพากษาสูงสุดของสหรัฐฯ ได้อ่านคำแถลงคัดค้านของเขาเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยระบุว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีการถกเถียงอย่างมากมายเกี่ยวกับสิทธิในการแต่งงานของคนรักร่วมเพศ ทว่าไม่ใช่หน้าที่ของศาลสูงสุดที่จะไปบังคับให้แต่ละรัฐเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วยการสมรส
“นักกฎหมาย 5 คนใช้อำนาจยุติการถกเถียง และประกาศนิยามการแต่งงานในแบบที่พวกเขาเชื่อโดยอ้างว่าเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ” โรเบิร์ตส กล่าว
กลุ่มผู้ที่คัดค้านการสมรสเกย์ชี้ว่า คำพิพากษานี้อาจส่งผลกระทบต่อพลเมืองที่ต่อต้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกันด้วยเหตุผลทางศาสนา
ประธานาธิบดีโอบามาได้ออกกฎหมายอนุญาตให้เกย์เป็นทหารรับใช้ชาติในกองทัพได้อย่างเปิดเผยในปี 2010 ต่อมาในปี 2013 ศาลสูงสหรัฐฯ ก็ได้พิพากษาให้กฎหมายปี 1996 ที่นิยามการสมรสว่าเป็นการผูกพันทางกฎหมายระหว่างหญิงกับชาย “ขัดรัฐธรรมนูญ” เนื่องจากมีผลลิดรอนสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมายที่คู่แต่งงานเพศเดียวกันพึงจะได้รับ