xs
xsm
sm
md
lg

จบแบบอึ้งๆ! ศาลสูงสุดอิตาลีให้ “อแมนดา น็อกซ์” พ้นผิดคดี “ฆ่าปาดคอ” นศ.อังกฤษเมื่อปี 2007

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อแมนดา น็อกซ์ อดีตนักศึกษาชาวอเมริกันซึ่งถูกศาลอิตาลีพิพากษาให้มีความผิดจริงในคดีฆาตกรรมเพื่อนนักศึกษาชาวอังกฤษ เมื่อปี 2007
รอยเตอร์/เอเอฟพี – ศาลสูงสุดอิตาลีมีคำพิพากษาวานนี้ (27 มี.ค.) ให้ยกฟ้อง อแมนดา น็อกซ์ อดีตนักศึกษาชาวอเมริกันซึ่งถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมเพื่อนร่วมห้องชาวอังกฤษระหว่างที่ศึกษาอยู่ในอิตาลีเมื่อปี 2007 ซึ่งถือเป็นการปิดฉากคดีดังที่ยืดเยื้อมาร่วม 10 ปีอย่างน่าตกตะลึง ขณะที่มารดาผู้ตายยอมรับว่า “ช็อก”

ศพของ เมเรดิธ เคอร์เชอร์ นักศึกษาชาวอังกฤษวัย 21 ปี ถูกพบในสภาพเกือบเปลือยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2007 ภายในห้องนอนบ้านพักที่เธออยู่ร่วมกับ น็อกซ์ ที่เมืองเปรูจา ศพของเธอนอนจมกองเลือด ตามลำตัวมีรอยฟกช้ำและบาดแผลจากมีดอยู่หลายแห่ง รวมถึงร่องรอยการถูกทำร้ายทางเพศ

รูดี กูเอเด ชาวไอเวอรีโคสต์ที่อาศัยอยู่ในเมืองเปรูจา ถูกตัดสินจำคุก 16 ปีฐานฆาตกรรม เคอร์เชอร์ แต่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นเชื่อว่าเขาไม่ได้ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง

คดีสะเทือนขวัญนี้ได้รับความสนใจจากสื่อทั้งในอเมริกาและยุโรป และยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ผลิตหนังสือและภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง

“ดิฉันโล่งใจ และซาบซึ้งในคำตัดสินของศาลสูงสุดอิตาลี” น็อกซ์ วัย 27 ปี ระบุในคำแถลงผ่านทนายความของเธอ

ศาลยุติธรรมสูงสุดของอิตาลีสั่งกลับคำพิพากษาครั้งที่ 2 ของศาลเมืองเปรูจาที่ให้เอาผิดฐานฆาตกรรมกับ น็อกซ์ และ ราฟาเอล โซลเลซิโต วัย 31 ปี อดีตแฟนหนุ่มของเธอ เนื่องจากเห็นว่าหลักฐานอ่อนเกินไป

ก่อนหน้านี้เป็นที่คาดว่ากันว่า ต่อให้ศาลสูงสุดกลับคำพิพากษา ก็คงจะสั่งให้มีการไต่สวนใหม่อีกครั้ง แต่ผลที่ออกมากลับกลายเป็นว่า น็อกซ์ และ โซลเลซิโต “พ้นผิดโดยสิ้นเชิง”

น็อกซ์ และอดีตแฟนหนุ่มเคยถูกตัดสินจำคุก 28 และ 24 ปีตามลำดับ และได้รับโทษมาแล้วคนละ 4 ปี หลังจากศาลอิตาลีพิพากษาเอาผิดครั้งแรกเมื่อปี 2009

การกลับคำพิพากษาเอาผิดจำเลยถึง 2 รอบตลอดช่วงเวลาเกือบ 8 ปีหลัง เคอร์เชอร์ ถูกฆาตกรรม เชื่อว่าจะทำให้กระบวนการยุติธรรมของแดนมะกะโรนีถูกตั้งคำถามไม่น้อย
ราฟาเอล โซลเลซิโต (ซ้าย), อแมนดา น็อกซ์ (กลาง) และเมเรดิธ เคอร์เชอร์
อาร์ลีน เคอร์เชอร์ มารดาของ เมเรดิธ เคอร์เชอร์ ยอมรับว่า “ประหลาดใจและช็อก” ที่ผู้พิพากษาศาลสูงสุดอิตาลีเคลียร์ความผิดทั้งหมดให้แก่ น็อกซ์ และโซลเลซิโต อย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่บุคคลทั้งสองเคยถูกศาลชั้นรองๆ พิพากษาว่ามีความผิดจริงมาแล้ว 2 ครั้ง

“ดิฉันแปลกใจนิดหน่อย แต่ช็อกมาก แต่เวลานี้จะทำอย่างไรได้... พวกเขาถูกศาลตัดสินว่าผิดจริงมาแล้ว 2 รอบ เพราะฉะนั้นมันก็แปลกๆ นะที่ศาลสูงสุดมากลับคำพิพากษาตอนนี้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป แม่ผู้ตายตอบว่า “ไม่ทราบจริงๆ ตอนนี้ยังไม่มีแผนอะไรเลย”

ฟรานเซสโก มาเรสกา ทนายฝ่ายครอบครัวเคอร์เชอร์ ชี้ว่า “นี่อาจจะเป็นความพ่ายแพ้ในคดี แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือความพ่ายแพ้ของกระบวนการยุติธรรมอิตาลี... คณะผู้พิพากษาบอกว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัด และไม่รู้ว่าใครที่ร่วมลงมือกับ กูเอเด”

ทั้งนี้ หากศาลสูงสุดอิตาลียืนยันที่จะเอาผิด น็อกซ์ ก็จะต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งพอสมควร

น็อกซ์ เดินทางกลับไปยังนครซีแอตเติลเมื่อปี 2011 หลังศาลเมืองเปรูจาตัดสินยกฟ้อง จากนั้นศาลสูงสุดอิตาลีก็มีคำสั่งให้เปิดการไต่สวนใหม่ และ น็อกซ์ ถูกศาลเมืองฟลอเรนซ์ตัดสินว่ามีส่วนฆาตกรรม เคอร์เชอร์จริง เนื่องจากทั้งคู่ได้มีปากเสียงกัน และทำให้ข้อสันนิษฐานเรื่องการเล่น “เซ็กซ์เกม” ระหว่างผู้ต้องหากับผู้ตายถูกหยิบยกขึ้นมาใหม่

เมื่อวานนี้ (27) ศาลสูงสุดอิตาลียืนยันโทษจำคุก 3 ปีแก่ น็อกซ์ ซึ่งเคยกล่าวหา แพทริก ลูมุมบา หนุ่มบาร์แมนชาวคองโกว่าเป็นผู้สังหารเคอร์เชอร์ แต่เนื่องจาก น็อกซ์ เคยติดคุกมาแล้ว 4 ปีในคดีที่ศาลยกฟ้อง จึงไม่ต้องรับโทษทัณฑ์อีก
ฟรานเซสโก มาเรสกา ทนายฝ่ายครอบครัวเคอร์เชอร์ สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว หลังศาลสูงสุดอิตาลีพิพากษาให้ อแมนดา น็อกซ์ และอดีตแฟนหนุ่มพ้นผิด วานนี้ (27)
อแมนดา น็อกซ์ ขณะถูกตำรวจหญิงคุมตัวออกจากศาลเมืองเปรูจา เมื่อปี 2008 (แฟ้มภาพ)

กำลังโหลดความคิดเห็น