เอเจนซีส์ - อเมริกากับจีนลั่นปากจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน ขณะที่การหารือระดับสูงด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองเดินหน้าเข้าสู่วันสุดท้ายในวันพุธ (24 มิ.ย.) โดยที่มีการพูดจากันอย่างตรงไปตรงมาถึงความแตกต่างที่ยังดำรงอยู่ในหลายประเด็นปัญหาสำคัญ ทั้งนี้ วอชิงตันแสดงความกังวลเรื่องที่แดนมังกรสนับสนุนแฮกเกอร์โจรกรรมข้อมูลธุรกิจบริษัทอเมริกัน รวมทั้งย้ำให้จีนเคารพเสรีภาพในการเดินเรือในน่านน้ำสากล ส่วนปักกิ่งก็สอนมวยแดนอินทรี ชี้สหรัฐฯ ควรส่งเสริมการออมและการลงทุนภายในประเทศ เพื่อช่วยจีนแบ่งเบาภาระในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
นอกจากการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศแล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังมีกำหนดให้การต้อนรับสมาชิกสำคัญของคณะผู้แทนจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธ (24) ก่อนหน้าการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในเดือนกันยายนนี้
สำหรับการหารือยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีนประจำปีครั้งที่ 7 ในวันอังคาร (23) ซึ่งเป็นวันที่ 2 เริ่มต้นด้วยรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเตือนปักกิ่งว่า ประเทศที่มีความรับผิดชอบจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และให้ความร่วมมือเพื่อทำให้ทางน้ำของโลก ซึ่งเป็นน่านน้ำสากลที่เป็นทางผ่านของสินค้า 80% ของพื้นพิภพนี้ เป็นน่านน้ำที่เปิดกว้าง
มหาอำนาจสองประเทศกำลังมีความเห็นแตกต่างไปคนละขั้ว โดยที่จีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ขณะที่วอชิงตันเฝ้าเร่งเร้าให้ปักกิ่งยุติการสร้างเกาะเทียมในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งใช้วิธีสันติแก้ไขข้อพิพาทในการอ้างอธิปไตยทับซ้อนกับเพื่อนร่วมภูมิภาค
ระหว่างขึ้นพูดที่เวทีการหารือในวอชิงตันคราวนี้ ซึ่งฝ่ายจีนส่งคณะตัวแทนที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ราว 400 คนจากจีน นำโดย หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐ มาเข้าร่วม ไบเดนกล่าวยืนยันว่า แม้ทั้งสองประเทศแข่งขันกันในหลายด้าน หรือขัดแย้งกันในหลายประเด็น แต่ปักกิ่งกับวอชิงตันต้องร่วมมือกันในการสร้างระบบใหม่ที่อิงกับกฎเกณฑ์เพื่อรับมือโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ด้านแดนมังกรก็ขึ้นปราศรัยอย่างตรงไปตรงมาชนิดผิดจากที่ฝ่ายนี้เคยปฏิบัติ รองนายกรัฐมนตรีหวัง หยาง กล่าวว่า ปักกิ่งและวอชิงตันนั้นไม่ได้เห็นพ้องกันทุกเรื่อง แต่ผู้มีอำนาจตัดสินใจของทั้งสองประเทศต้องตระหนักว่า การเผชิญหน้าจะส่งผลร้ายแรงต่อทั้งสองฝ่ายตลอดจนถึงทั่วโลก
ขณะที่ หยาง เจียฉือ สำทับว่าจีนจะร่วมมือกับอเมริกาอย่างตรงไปตรงมาเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม
สำหรับหนึ่งในประเด็นหารือที่สำคัญระหว่างการประชุมเป็นเวลา 3 วันครั้งนี้คือการแอบเจาะระบบคอมพิวเตอร์ เจค็อบ ลูว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า ประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่ยอมรับได้เกี่ยวกับพฤติกรรมในไซเบอร์สเปซ พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่ปักกิ่งให้การสนับสนุนการเจาะระบบคอมพิวเตอร์เพื่อโจรกรรมข้อมูลธุรกิจและเทคโนโลยีของบริษัทอเมริกัน
ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ร้าวลึก หลังจากอเมริกายื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ทหารจีน 5 คนเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น การหารือในสัปดาห์นี้ยังมีขึ้นหลังจากฝ่ายสหรัฐฯ แพลมว่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของสำนักบริหารบุคลากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกโจมตีครั้งใหญ่
นอกจากเรื่องการแฮกโจรกรรมข้อมูลแล้ว ลูว์ยังเรียกร้องให้จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน และส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ
ข้อเรียกร้องของลูว์ในประเด็นท้ายสุดได้รับการตอบโต้สวนกลับจากโหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีคลังจีน ที่บอกว่า อเมริกาเองควรส่งเสริมการออมและการลงทุนภายในประเทศเพื่อกระตุ้นการเติบโต รวมถึงจัดสรรงบใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยชี้ว่า จีนมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึง 30% ขณะที่อเมริกาที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก กลับช่วยผลักดันเศรษฐกิจโลกเพียง 10% เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายมีความพยายามผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียด ด้วยการเน้นย้ำประเด็นปัญหาซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการร่วมมือกัน เป็นต้นว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและเกาหลีเหนือ การต่อสู้กับขบวนการมุสลิมหัวรุนแรง และการสนับสนุนการพัฒนาของโลก
จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า อเมริกาและจีน ในฐานะสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลกและปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก ได้ร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอดในการพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนการประชุมใหญ่เพื่อจัดทำข้อตกลงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่สหประชาชาติเป็นเจ้าภาพ ณ กรุงปารีสเดือนธันวาคมนี้