xs
xsm
sm
md
lg

“จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้” พิจารณาจัดประชุมซัมมิท 3 ฝ่ายช่วงฤดูใบไม้ร่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ – จีน , ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้กำลังพิจารณาจัดการประชุมซัมมิท 3 ฝ่ายครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับการพบปะกันตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างผู้นำของโตเกียวและโซล หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน นิกเกอิ รายงานในวันนี้ (20)

การประชุมดังกล่าวจะฟื้นคืนความร่วมมือในหมู่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกทั้ง 3 แห่งนี้ ซึ่งถูกหยุดไว้ตั้งแต่ปี 2012 เนื่องจากข้อพิพาททางดินแดน ตลอดจนประเด็นที่โซลและปักกิ่งมองว่าญี่ปุ่นไม่มีความเต็มใจที่จะเผชิญหน้าอดีตช่วงสงครามของตน

ยุน บยอง-เซ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้และ ฟูมิโอะ คุชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างเทศของญี่ปุ่นคาดว่าจะยืนยันในสัปดาห์ถึงความประสงค์ของผู้นำที่จะจัดการประชุมดังกล่าว นิกเกอิ รายงาน ทั้งนี้ ยุน อยู่ระหว่างการเยือนโตเกียวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

นิกเกอิ รายงานว่า การประชุมซัมมิทดังกล่าวอาจะมีขึ้นระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายนในแดนโสมขาว และจะเป็นเวทีให้กับการพบปะแบบทวิภาคีครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดี พัค กึนฮเย แห่งเกาหลีใต้ สองผู้นำซึ่งขึ้นรับตำแหน่งในปี 2012 และ 2013 ตามลำดับ

ความสัมพันธ์ระหว่างโตเกียวและโซลตึงเครียดมานานจากความขุ่นแค้นเรื่อง “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” ที่ถูกบังคับให้ทำงานในซ่องทหารช่วงสงครามของญี่ปุ่น ข้อพิพาทดังกล่าวบั่นทอนความพยายามที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งต่างเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังรับมือกับเกาหลีเหนือที่คาดเดาไม่ได้และจีนที่ก้าวร้าว

ในขณะที่วันครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังใกล้เข้ามา ทั้งสองประเทศนี้ยังคงส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับหนทางแก้ไขข้อพิพาทเรื่องสตรีเพื่อการผ่อนคลาย

ในส่วนของจีนกับญี่ปุ่น สายสัมพันธ์ของพวกเขายังคงหลุดลุ่ยแต่ก็เห็นแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นนับตั้งแต่ที่ อาเบะ พบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและอีกครั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศตึงเครียดมานานจากความทรงจำช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อันขมขื่นของจีน และข้อพิพาทข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะแห่งหนึ่งในทะเลจีนใต้ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “เซ็งกากุ” และจีนเรียกว่า “เตียวอวี๋”

ญี่ปุ่นเลือกใช้นโยบายความมั่นคงที่แข็งกร้าวขึ้นนับตั้งแต่ที่ อาเบะ ขึ้นสู่อำนาจในปี 2012 ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่ชาติเพื่อนบ้านว่าประเทศนี้กำลังกลับสู่ลัทธิทหารนิยมดังเช่นอดีต

แต่ คิชิดะ ได้ยืนยันถึงความฝักใฝ่สันติภาพของประเทศเขาในการปราศรัยที่กรุงโตเกียวในวันนี้ (20) โดยเขาระบุว่า “เราเดินตามเส้นทางของประเทศที่รักสันติภาพพร้อมกับความรู้สึกสำนักเสียใจ และตัดสินใจที่จะรักษาสันติภาพนี้ไว้และไม่มีทางก่อสงครามอีกครั้งอย่างแน่นอน”


กำลังโหลดความคิดเห็น