รอยเตอร์ – สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุในวันนี้ (18) มีคนเกือบ 60 ล้านคนทั่วโลกกลายเป็นผู้พลัดถิ่นฐานจากความขัดแย้งและการข่มเหงในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งถือตัวเลขที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
UNHCR กล่าวในรายงานแนวโน้มทั่วโลก (Global Trends Report ) ประจำปีว่า มากกว่าครึ่งของผู้พลัดถิ่นจากวิกฤตต่างๆ รวมถึงในซีเรีย , อัฟกานิสถาน และโซมาเลียเป็นเด็ก
ในปี 2014 มีคนราว 42,500 คนกลายเป็นผู้ลี้ภัย , ผู้แสวงหาที่พักพิง , หรือผู้พลัดถิ่นภายในประเทศในทุกๆ วัน โดยเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น UNHCR ระบุ
UNHCR ระบุว่า ซีเรียประเทศซึ่งมีความขัดแย้งรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2011 คือแหล่งต้นทางของผู้พลัดถิ่นภายในประเทศและผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อช่วงสิ้นปีที่แล้วมีผู้พลัดถิ่นในซีเรีย 7.6 ล้านคนและมีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเกือบ 4 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชาติเพื่อนบ้านอย่างเลบานอน , จอร์แดน และตุรกี
UNHCR ระบุว่า มีคน 38.2 ล้านคนที่ถูกทำให้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งภายในประเทศ ซึ่งมากกว่า 1 ปีก่อนหน้าเกือบ 5 ล้านคน โดยปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นคือสงครามในยูเครน , ซูดานใต้ , ไนจีเรีย , สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
จากผู้ลี้ภัยทั้งหมด 19.5 ล้านคนที่อาศัยอยู่นอกประเทศบ้านเกิดของตน 5.1 ล้านคนเป็นชาวปาเลสไตน์ ขณะที่อีกกว่าครึ่งของ 14.4 ล้านที่เหลือเป็นชาวซีเรียและชาวอัฟกานิสถาน UNHCR ระบุ
UNHCR ยังสังเกตเห็นด้วยว่า มีคนพยายามขอลี้ภัยทางการเมืองในต่างประเทศถึง 1.6 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยส่วนหนึ่งมาจาก ชาวยูเครน 270,000 คนที่ยื่นคำร้องขอลี้ภัยในรัสเซีย
ถึงแม้ว่าจะมีความขัดแย้งมากมายได้ปะทุขึ้นหรือปะทุซ้ำในช่วง 5 ปีที่ผ่าน แต่กลับมีความขัดแย้งเพียง 2-3 เรื่องเท่านั้นที่ได้รับการแก้ไขหาทางออกอย่างเป็นผลสำเร็จ ในปี 2014 มีผู้ลี้ภัยเพียง 126,800 คนเท่านั้นที่สามารถกลับประเทศบ้านเกิดได้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 31 ปี UNHCR ระบุ