(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Alibaba wants Americans to join the party
By Asia Unhedged
10/06/2015
แจ๊ก หม่า อภิมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง “อาลีบาบา” อยู่ระหว่างการเดินทางตระเวนไปทั่วสหรัฐฯ เพื่อบอกเล่ากล่าวเกริ่นถึงความทะเยอทะยานระดับโลกของบริษัทของเขาให้ฟัง แต่ส่วนที่ดีที่สุดเห็นจะอยู่ตรงที่เขาระบุว่า อาลีบาบา ตลาดซื้อขายออนไลน์ใหญ่ที่สุดของแดนมังกร “ต้องการทำให้มันเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับการที่ธุรกิจอเมริกันรายเล็กๆ จะขายข้าวของต่างๆ ให้แก่ประชาชนชาวจีน”
ยุทธศาสตร์ของ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (Alibaba Group Holding) ดูง่ายๆ ธรรมดาๆ และช่างล่อใจเหลือเกิน จนเป็นการยากที่จะคาดคิดว่าคนอเมริกันจะอดใจไม่คว้ามันมากัดกินกร้วมๆ ได้อย่างไร
ยุทธศาสตร์ดังกล่าวสามารถสรุปสั้นๆ ได้ดังนี้: “เราต้องการทำให้มันเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับการที่ธุรกิจอเมริกันรายเล็กๆ จะขายข้าวของต่างๆ ให้แก่ประชาชนชาวจีน”
แจ๊ก หม่า (Jack Ma) อภิมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางตระเวนไปทั่วสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ เพื่อบอกเล่ากล่าวเกริ่นถึงความทะเยอทะยานระดับโลกของบริษัทของเขาให้ฟัง แต่ส่วนที่ดีที่สุดเห็นจะอยู่ตรงที่ เขากำลังเชิญชวนให้ชาวอเมริกันเข้าร่วมในวงปาร์ตี้คราวนี้ด้วย!
อาลีบาบา ตลาดซื้อขายออนไลน์ใหญ่ที่สุดของจีน ทำยอดขายได้ 440,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว บริษัทต้องการที่จะทำยอดให้ได้เป็นกว่าสองเท่าตัว และกระทั่งสามารถขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของตนให้ได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2019
“วิสัยทัศน์ของเราก็คือ ในเวลา 10 ปี เราจะช่วยผู้บริโภค 2,000 ล้านคนของโลกให้ทำการช็อปปิ้งทางออนไลน์” หม่า บอกกับพวกสมาชิกของสโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อวันอังคารที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ในการปราศรัยช่วงงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ โรงแรมวอลดอร์ฟแอสโทเรีย (Waldorf Astoria) “โลกาภิวัตน์ของเราจะยังคงมุ่งโฟกัสไปที่การช่วยเหลือพวกธุรกิจรายเล็กๆ และช่วยเหลือพวกเขาให้ทำธุรกิจในหนทางที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด”
อาลีบาบาตั้งเป้าที่จะทำรายรับของตนจากนอกประเทศจีนให้ได้ในอัตราส่วน 40% จากที่มีอยู่เพียง 2% ในเวลานี้
“โอกาสและยุทธศาสตร์สำหรับพวกเรานั้น มันก็คือการช่วยเหลือพวกธุรกิจเล็กๆ ในอเมริกาให้ไปยังจีน ทำการขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสู่ประเทศจีน” หม่าบอก “ภายในเวลา 10 ปี คนจีนกว่า 500 ล้านคนจะอยู่ในระดับชนชั้นกลาง”
ชนชั้นกลางชาวจีนนั้นมีความกระหายที่จะซื้อหาสินค้าจากต่างประเทศ เขาบอก พร้อมกับแจกแจงตัวเลขว่า นักช็อปทางออนไลน์ของจีนได้ทำการซื้อสินค้าข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีอัตราเติบโตขยายตัวถึง 10 เท่าตัวนับแต่ปี 2010 เป็นต้นมา จากที่มียอดไม่ถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ ก็กลายเป็นมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2014
“ผู้บริโภคชาวจีนทำการช็อปออนไลน์เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพสูงทุกๆ ประเภท ตั้งแต่อาหารสด, ผลิตภัณฑ์สำหรับทารก, ไปจนถึงเครื่องสำอาง –และพวกเขาต่างต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากสถานที่อย่างสหรัฐฯและยุโรป” หม่าบอกเอาไว้เช่นนี้ในข้อเขียนชิ้นหนึ่งซึ่งเขาเขียนให้แก่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล เพื่อแนะนำการเดินทางตระเวนอเมริกาของเขาเที่ยวนี้ “พวกเขาซื้ออาหารทะเลจากอะแลสกา, เนื้อหมูจากไอโอวา, ของเล่นเด็กจากโรดไอแลนด์, และเครื่องกีฬาจากออริกอน และแมริแลนด์”
“เวลานี้เราได้เห็นผู้ที่ประสบความสำเร็จแบบข้ามพรมแดนเช่นนี้เป็นรายแรกๆ กันบ้างแล้ว” หม่า เขียนเอาไว้เช่นนี้ “ผมมีความภาคภูมิใจเป็นพิเศษต่องานของเราที่ทำกับพวกเกษตรกรชาวอเมริกัน ตัวอย่างเช่น ในปี 2013 เกษตรกรในแถบแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ ขายผลเชอร์รี 180 ตันให้แก่จีนโดยผ่านแพลตฟอร์มของอาลีบาบา มันทำให้เกิดความคลั่งไคล้เชอร์รีขึ้นในประเทศจีน และยอดขายในปี 2014 ก็พุ่งขึ้นเป็นกว่า 3 เท่าตัว สู่ระดับ 600 ตัน ความสำเร็จเช่นนี้ การซื้อขายประจำวันอย่างอื่นๆ ก็สามารถลอกเลียนแบบได้ทั้งนั้น”
อาลีบาบานั้นมีผู้ซื้อที่ทำการซื้อเป็นรายปีอยู่ในระบบนิเวศของตนมากกว่า 350 ล้านราย ขณะที่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ที่ใช้บริการบนแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือของอาลีบาบาเป็นรายเดือนจำนวน 94 ล้านราย หม่าบอกว่าชนชั้นกลางชาวจีนนั้นมีขนาดใหญ่พอๆ กับจำนวนประชากรทั้งหมดของสหรัฐฯทีเดียว
ถึงแม้อาลีบาบามักถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบกับ แอมะซอน (Amazon) อยู่บ่อยครั้ง แต่หม่ากล่าวว่า “ความแตกต่างระหว่างเรากับแอมะซอนก็คือ เราไม่ได้ทำการซื้อและทำการขาย ... เราช่วยธุรกิจรายเล็กๆ ให้ซื้อและขายอยู่เป็นประจำทุกๆ วัน แต่เราไม่ได้จัดส่งแพกเกจหีบห่อของเราด้วยตัวเราเอง ถึงแม้เรามีผู้คนราว 2 ล้านคนซึ่งช่วย (จัดส่ง) แพกเกจหีบห่อกว่า 30 ล้านหีบห่อทุกๆ วัน ... เราไม่ได้มีการจัดเก็บสินค้าในสต็อก แต่เราก็มีผู้ซื้ออยู่ 350 ล้านราย”
“เราต้องการได้ผลิตภัณฑ์อเมริกันไปยังประเทศจีนมากยิ่งขึ้นกว่านี้อีก” หม่าบอก “เรามีประชาชนผู้หิวกระหายจำนวน 100 ล้านคนซึ่งกำลังเข้ามาซื้อกันอยู่ทุกๆ วัน”
สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิดีโอบันทึกรายการพูดปราศรัยของ แจ๊ก หม่า สามารถดูได้ที่ http://www.alizila.com/jack-ma-alibaba-wont-invade-america-video#sthash.dgMlIpFg.dpuf)
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
Alibaba wants Americans to join the party
By Asia Unhedged
10/06/2015
แจ๊ก หม่า อภิมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง “อาลีบาบา” อยู่ระหว่างการเดินทางตระเวนไปทั่วสหรัฐฯ เพื่อบอกเล่ากล่าวเกริ่นถึงความทะเยอทะยานระดับโลกของบริษัทของเขาให้ฟัง แต่ส่วนที่ดีที่สุดเห็นจะอยู่ตรงที่เขาระบุว่า อาลีบาบา ตลาดซื้อขายออนไลน์ใหญ่ที่สุดของแดนมังกร “ต้องการทำให้มันเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับการที่ธุรกิจอเมริกันรายเล็กๆ จะขายข้าวของต่างๆ ให้แก่ประชาชนชาวจีน”
ยุทธศาสตร์ของ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (Alibaba Group Holding) ดูง่ายๆ ธรรมดาๆ และช่างล่อใจเหลือเกิน จนเป็นการยากที่จะคาดคิดว่าคนอเมริกันจะอดใจไม่คว้ามันมากัดกินกร้วมๆ ได้อย่างไร
ยุทธศาสตร์ดังกล่าวสามารถสรุปสั้นๆ ได้ดังนี้: “เราต้องการทำให้มันเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับการที่ธุรกิจอเมริกันรายเล็กๆ จะขายข้าวของต่างๆ ให้แก่ประชาชนชาวจีน”
แจ๊ก หม่า (Jack Ma) อภิมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางตระเวนไปทั่วสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ เพื่อบอกเล่ากล่าวเกริ่นถึงความทะเยอทะยานระดับโลกของบริษัทของเขาให้ฟัง แต่ส่วนที่ดีที่สุดเห็นจะอยู่ตรงที่ เขากำลังเชิญชวนให้ชาวอเมริกันเข้าร่วมในวงปาร์ตี้คราวนี้ด้วย!
อาลีบาบา ตลาดซื้อขายออนไลน์ใหญ่ที่สุดของจีน ทำยอดขายได้ 440,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว บริษัทต้องการที่จะทำยอดให้ได้เป็นกว่าสองเท่าตัว และกระทั่งสามารถขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของตนให้ได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2019
“วิสัยทัศน์ของเราก็คือ ในเวลา 10 ปี เราจะช่วยผู้บริโภค 2,000 ล้านคนของโลกให้ทำการช็อปปิ้งทางออนไลน์” หม่า บอกกับพวกสมาชิกของสโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อวันอังคารที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ในการปราศรัยช่วงงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ โรงแรมวอลดอร์ฟแอสโทเรีย (Waldorf Astoria) “โลกาภิวัตน์ของเราจะยังคงมุ่งโฟกัสไปที่การช่วยเหลือพวกธุรกิจรายเล็กๆ และช่วยเหลือพวกเขาให้ทำธุรกิจในหนทางที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด”
อาลีบาบาตั้งเป้าที่จะทำรายรับของตนจากนอกประเทศจีนให้ได้ในอัตราส่วน 40% จากที่มีอยู่เพียง 2% ในเวลานี้
“โอกาสและยุทธศาสตร์สำหรับพวกเรานั้น มันก็คือการช่วยเหลือพวกธุรกิจเล็กๆ ในอเมริกาให้ไปยังจีน ทำการขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสู่ประเทศจีน” หม่าบอก “ภายในเวลา 10 ปี คนจีนกว่า 500 ล้านคนจะอยู่ในระดับชนชั้นกลาง”
ชนชั้นกลางชาวจีนนั้นมีความกระหายที่จะซื้อหาสินค้าจากต่างประเทศ เขาบอก พร้อมกับแจกแจงตัวเลขว่า นักช็อปทางออนไลน์ของจีนได้ทำการซื้อสินค้าข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีอัตราเติบโตขยายตัวถึง 10 เท่าตัวนับแต่ปี 2010 เป็นต้นมา จากที่มียอดไม่ถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ ก็กลายเป็นมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2014
“ผู้บริโภคชาวจีนทำการช็อปออนไลน์เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพสูงทุกๆ ประเภท ตั้งแต่อาหารสด, ผลิตภัณฑ์สำหรับทารก, ไปจนถึงเครื่องสำอาง –และพวกเขาต่างต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากสถานที่อย่างสหรัฐฯและยุโรป” หม่าบอกเอาไว้เช่นนี้ในข้อเขียนชิ้นหนึ่งซึ่งเขาเขียนให้แก่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล เพื่อแนะนำการเดินทางตระเวนอเมริกาของเขาเที่ยวนี้ “พวกเขาซื้ออาหารทะเลจากอะแลสกา, เนื้อหมูจากไอโอวา, ของเล่นเด็กจากโรดไอแลนด์, และเครื่องกีฬาจากออริกอน และแมริแลนด์”
“เวลานี้เราได้เห็นผู้ที่ประสบความสำเร็จแบบข้ามพรมแดนเช่นนี้เป็นรายแรกๆ กันบ้างแล้ว” หม่า เขียนเอาไว้เช่นนี้ “ผมมีความภาคภูมิใจเป็นพิเศษต่องานของเราที่ทำกับพวกเกษตรกรชาวอเมริกัน ตัวอย่างเช่น ในปี 2013 เกษตรกรในแถบแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ ขายผลเชอร์รี 180 ตันให้แก่จีนโดยผ่านแพลตฟอร์มของอาลีบาบา มันทำให้เกิดความคลั่งไคล้เชอร์รีขึ้นในประเทศจีน และยอดขายในปี 2014 ก็พุ่งขึ้นเป็นกว่า 3 เท่าตัว สู่ระดับ 600 ตัน ความสำเร็จเช่นนี้ การซื้อขายประจำวันอย่างอื่นๆ ก็สามารถลอกเลียนแบบได้ทั้งนั้น”
อาลีบาบานั้นมีผู้ซื้อที่ทำการซื้อเป็นรายปีอยู่ในระบบนิเวศของตนมากกว่า 350 ล้านราย ขณะที่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ที่ใช้บริการบนแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือของอาลีบาบาเป็นรายเดือนจำนวน 94 ล้านราย หม่าบอกว่าชนชั้นกลางชาวจีนนั้นมีขนาดใหญ่พอๆ กับจำนวนประชากรทั้งหมดของสหรัฐฯทีเดียว
ถึงแม้อาลีบาบามักถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบกับ แอมะซอน (Amazon) อยู่บ่อยครั้ง แต่หม่ากล่าวว่า “ความแตกต่างระหว่างเรากับแอมะซอนก็คือ เราไม่ได้ทำการซื้อและทำการขาย ... เราช่วยธุรกิจรายเล็กๆ ให้ซื้อและขายอยู่เป็นประจำทุกๆ วัน แต่เราไม่ได้จัดส่งแพกเกจหีบห่อของเราด้วยตัวเราเอง ถึงแม้เรามีผู้คนราว 2 ล้านคนซึ่งช่วย (จัดส่ง) แพกเกจหีบห่อกว่า 30 ล้านหีบห่อทุกๆ วัน ... เราไม่ได้มีการจัดเก็บสินค้าในสต็อก แต่เราก็มีผู้ซื้ออยู่ 350 ล้านราย”
“เราต้องการได้ผลิตภัณฑ์อเมริกันไปยังประเทศจีนมากยิ่งขึ้นกว่านี้อีก” หม่าบอก “เรามีประชาชนผู้หิวกระหายจำนวน 100 ล้านคนซึ่งกำลังเข้ามาซื้อกันอยู่ทุกๆ วัน”
สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิดีโอบันทึกรายการพูดปราศรัยของ แจ๊ก หม่า สามารถดูได้ที่ http://www.alizila.com/jack-ma-alibaba-wont-invade-america-video#sthash.dgMlIpFg.dpuf)
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
