เอพี/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ กล่าวในวันศุกร์ (5 มิ.ย.) อันเป็นวันสุดท้ายของการเยือนญี่ปุ่นว่า เขาต้องการเริ่มการพูดจาหารือเพื่อเปิดทางให้กองทหารญี่ปุ่นเข้าไปในแดนตากาล็อกของเขาได้ ในขณะที่ประเทศทั้งสองต่างกำลังพยายามสร้างเสริมศักยภาพทางทหาร ในช่วงเวลาที่มีการพิพาทด้านดินแดนอย่างเข้มข้นอยู่กับจีน
อากีโนกล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวตอนช่วงสิ้นสุดการเยือนโตเกียวเป็นเวลา 4 วันของเขาเที่ยวนี้ว่า เมื่อมีการทำความตกลงกัน ก็จะเปิดทางให้ฟิลิปปินส์สามารถจัดเติมน้ำมันและสนองความต้องการทางการส่งกำลังบำรุงอื่นๆ ตลอดจนสนองความจำเป็นทางด้านกฎหมายสำหรับการที่กองทหารญี่ปุ่นจะไปเยือนแดนตากาล็อกกันเป็นระยะๆ ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ได้จัดทำข้อตกลงทำนองนี้กับสหรัฐฯและออสเตรเลียไปแล้ว
ฟิลิปปินส์กับญี่ปุ่นนั้น เมื่อวันพฤหัสบดี (4) ได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ฉบับหนึ่งไปแล้ว และระบุว่าประเทศทั้งสองจะเริ่มต้นหารือกันในเรื่องที่ญี่ปุ่นจะขายฮาร์ดแวร์ทางทหารและเทคโนโลยีทางการทหารให้ฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกับที่เพิ่มพูนการฝึกฝนและการซ้อมรบร่วมกันระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้น แดนอาทิตย์อุทัยยังจะจัดส่งเรือตรวจการณ์จำนวน 10 ลำให้แก่หน่วยยามฝั่งของแดนตากาล็อก รวมทั้งให้สัญญาที่จะช่วยปรับปรุงยกระดับสมรรถนะในด้านการตรวจการณ์และการป้องกันของฟิลิปปินส์
อย่างไรก็ตาม เคนโกะ โซเนะ โฆษกของสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ตัวเขาขณะนี้ยังไม่ทราบว่าญี่ปุ่นกำลังเริ่มเจรจากับฟิลิปปินส์ในเรื่องการทำข้อตกลงว่าด้วยกองกำลังอาวุธที่จะไปเยือนนี้หรือยัง
สำหรับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะนั้น แสดงความต้องการอย่างชัดเจนที่จะขยายบทบาททางทหารของญี่ปุ่นในต่างแดน อีกทั้งได้เข้าเป็นหุ้นส่วนกับประเทศจำนวนหนึ่งแล้ว เป็นต้นว่าออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากการทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯที่ถือเป็นเสาหลักในเรื่องนี้ของโตเกียว
เมื่อปีที่แล้ว คณะรัฐมนตรีของอาเบะได้ลงมติรับรองการตีความใหม่ในเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งใช้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อันจะเปิดทางให้ญี่ปุ่นสามารถเข้าช่วยเหลือพวกพันธมิตรต่างประเทศที่ถูกโจมตีได้ โดยที่การตีความเดิมนั้นกำหนดเข้มงวดให้กองทหารญี่ปุ่นปฏิบัติการได้เฉพาะภายในญี่ปุ่นและอาณาเขตรอบๆ อีกทั้งป้องกันเฉพาะญี่ปุ่นเองได้เท่านั้น ขณะนี้การเปลี่ยนแปลงการตีความใหม่ดังกล่าวนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา
รัฐมนตรีกลาโหม เกน นางาตานิ ของญี่ปุ่นเคยระบุว่า ถ้าหากการตีความใหม่นี้สามารถผ่านรัฐสภาไปได้ ซึ่งคาดกันว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะรัฐบาลครองเสียงข้างมากอยู่ จะเปิดทางให้กองทัพญี่ปุ่น ซึ่งยังคงเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น สามารถดำเนินปฏิบัติการคุ้มกันและตรวจการณ์ในทะเลจีนใต้ได้ พวกผู้สังเกตการณ์มองว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ โตเกียวก็จะสามารถหนุนเสริมฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯ ซึ่งกำลังท้าทายการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในอาณาบริเวณนี้ของจีนอยู่อย่างแข็งขัน
อากีโนกล่าวในวันศุกร์ว่า ผู้นำทั้งสองได้พูดคร่าวๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเริ่มการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงเปิดทางให้กองทหารไปเยือน และฝ่ายฟิลิปปินส์นั้นพร้อมแล้วที่จะหารือรายละเอียดเพิ่มขึ้นในเรื่องนี้ เขาระบุว่าประเทศที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กัน จำเป็นต้องมีข้อตกลงชนิดนี้เตรียมเผื่อไว้ในกรณี “เมื่อถึงเวลาที่คุณจำเป็นที่จะต้องมีการร่วมมือประสานงานกัน”
ในญี่ปุ่นเวลานี้มีกองทหารอเมริกันตั้งประจำอยู่ โดยเป็นไปตามสนธิสัญญาความมั่นคงระดับทวิภาคีที่มีอยู่ระหว่างกัน ทว่าแดนอาทิตย์อุทัยยังไม่เคยทำข้อตกลงเรื่องการส่งทหารไปเยือนกับชาติอื่นๆ เลย ยกเว้นในกรณีการปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้การนำของสหประชาชาติ