xs
xsm
sm
md
lg

มาเลเซียเริ่มขุดศพโรฮีนจาตามค่ายกักกันใกล้ชายแดนไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ของมาเลเซียได้ออกปฏิบัติหน้าที่ในวันอังคาร (26 พ.ค.) เริ่มทำการขุดศพจำนวนมากที่พบถูกฝังอยู่ในค่ายกลางป่าใกล้ชายแดนไทย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

ทางการเชื่อว่า ในบรรดาค่ายที่พวกเขาพบหลุมศพมากมาย มีอย่างน้อย 2 แห่งได้ถูกปล่อยทิ้งร้างในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่ทางการไทยเริ่มปราบปรามพวกค้ามนุษย์ นอกจากนั้น ทางการแดนเสือเหลืองยังกำลังสืบสวนสอบสวนโดยสงสัยว่าพวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ท้องถิ่นอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกแก๊งค้ามนุษย์เหล่านี้

พื้นที่ป่าทึบในภาคใต้ของไทยกับภาคเหนือของมาเลเซีย เป็นจุดพักสำคัญที่พวกค้ามนุษย์ใช้ในการขนคนจากประเทศเมียนมาร์เข้าสู่ชาติอื่นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมโรฮีนจา บางส่วนเป็นชาวบังกลาเทศ

ในวันอังคาร (26 พ.ค.) ทางการมาเลเซียได้นำกลุ่มนักข่าวเข้าไปที่ค่ายกักกันแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในป่าทึบ ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1 ชั่วโมงจากถนนที่ใกล้ที่สุด

สภาพของที่นั่นเห็นได้ชัดว่าพวกค้ามนุษย์พากันทิ้งค่ายไปอย่างเร่งรีบ สิ่งที่เหลืออยู่ไม่มีอะไรมากไปกว่าผ้าใบกับไม้ไผ่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้ไม่เผยนามรายหนึ่งได้บอกว่า ของพวกนี้อาจเคยถูกใช้สร้างเป็นที่พักให้กับคนมากถึง 400 คน

นักข่าวของรอยเตอร์พบเห็นแท็งก์น้ำพลาสติกขนาดใหญ่ในค่ายที่ไปเยือนวันนี้ ที่พอจะบ่งบอกได้ถึงการอยู่อาศัยที่ค่อนข้างถาวรในระดับหนึ่ง ทั้งยังได้ยินเสียงเรียกชาวมุสลิมสวดละหมาดแว่วมาจากพื้นที่ใกล้ๆ

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งบอกว่า มีการพบหลุมศพ 37 หลุมที่นั่นซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ขณะเดียวกัน ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานก็ได้เริ่มลงมือขุดโดยมีถุงใส่ชิ้นส่วนและผ้าห่อศพสีขาวจำนวนมากวางกองอยู่ที่พื้น

ทางด้านรัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี แถลงในวันนี้ (26) ว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นเผยให้เห็นว่ามีความเชื่อมโยงกัน ระหว่างพวกเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้ท้องถิ่นกับแก๊งค้ามนุษย์ สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงาน พร้อมกับระบุด้วยว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้เหล่านี้บางคนเอาไว้แล้ว เพื่อทำการสอบสวนขยายผล

“เราสงสัยว่าพวกเขาบางคนเกี่ยวข้องพัวพันด้วย … แต่เรากำลังทำงานร่วมกับกรมป่าไม้ในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว” เบอร์นามาอ้างคำพูดของรัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวที่รัฐสภา

ในแต่ละปี ชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายพันคนได้ถูกนำตัวขึ้นเรือโดยพวกค้ามนุษย์ เดินทางผ่านภาคใต้ของไทย โดยในช่วงปีหลังๆ ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว ที่คนเหล่านี้ต้องถูกจับไปคุมขังไว้ตามค่ายที่ห่างไกลผู้คน ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย จนกว่าจะมีคนยอมจ่ายค่าไถ่เพื่อซื้ออิสรภาพให้คนเหล่านี้

การสืบสวนของรอยเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีการเรียกค่าไถ่ประมาณ 1,200-1,800 ดอลลาร์ ถือเป็นเงินก้อนโตสำหรับผู้อพยพที่ยากไร้ ที่ใช้เงินในการดำรงชีวิตวันละ 1-2 ดอลลาร์

เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ตำรวจได้นำเอาซากศพที่เน่าเปื่อยไม่ได้รับการกลบฝัง ออกไปจากค่ายแห่งหนึ่ง โดยทางตำรวจระบุว่าศพของบุคคลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อัตลักษณ์รายนี้น่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์

“เหยื่อรายนี้ได้เสียชีวิตโดยที่พวกคนดูแลไม่มีเวลาจะฝังศพ เพราะเร่งรีบออกจากค่ายไป” ตำรวจระบุ

ผู้บังคับการตำรวจมาเลเซียระบุเมื่อวันจันทร์ว่า จุดที่พบหลุมศพเหล่านี้ มีแห่งหนึ่งอยู่ห่างเพียงแค่ 100 เมตรจากบริเวณที่ขุดพบ 26 ศพในจังหวัดสงขลาของไทยเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

“เราไม่รู้ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ระหว่างค่ายที่พบในไทยกับในมาเลซีย” พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 บอกนักข่าวรอยเตอร์

“มันมีความเป็นไปได้ที่การปราบปรามของไทยทำให้ค่ายพวกนี้ต้องย้ายหนีไป ผู้อพยพบางรายอาจจะเดินข้ามแดนไปหรือไม่ก็หนีกลับมาฝั่งไทย มันเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เรายังไม่สามารถยืนยันได้” เขาบอกนักข่าว

ขณะที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนในฝั่งมาเลเซีย ได้บอกว่าเคยเห็นผู้อพยพพวกนี้ในพื้นที่แถบนั้น

“พวกนี้ส่วนมากอดอยาก ไม่ได้กินอะไรเป็นสัปดาห์ พวกเขากินเมล็ดพืช กินใบไม้หรืออะไรก็ได้เท่าที่จะหาได้ น่าสงสารจริงๆ มันน่าเศร้ามากที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” อับดุล ราห์มัน ชาวบ้านที่ทำธุรกิจที่พักเล็กๆ แห่งหนึ่ง บอกนักข่าวรอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น