สภายูเครนโหวตลงมติให้อำนาจเคียฟระงับการจ่ายหนี้เจ้าหนี้ที่น่าสงสัย

เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(19)รัฐสภายูเครนลงมติอนุมติรัฐบาลยูเครนสามารถระงับการชำระหนี้ชั่วคราวให้กับเจ้าหนี้ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยได้

เดอะการ์เดียน รายงานเมื่อวานนี้(19)ว่า ในวันอังคาร(19) สภายูเครนมีมติในมาตรการล่าสุดเพื่อปกป้องยูเครนจากเจ้าหนี้ที่ต้องสงสัยว่าจะหาประโยชน์จากสภาวะของประเทศที่อยู่ในระหว่างสงครามกลางเมือง “ในกรณีที่ยูเครนถูกโจมตีโดยเจ้าหนี้ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย มาตรการระงับการจ่ายหนี้ชั่วคราวจะปกป้องทรัพย์สินยูเครนและหน่วยงานภาครัฐ” นายกรัฐมนตรียูเครน อาร์เซนี ยัตเซนยุค แถลง

ด้านรัฐมนตรีการคลังยูเครน นาตาลี จาเรสโค (Natalie Jaresko) แถลงเพิ่มเติมว่า เสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นในสภาราเดา(Rada)ยูเครน เปิดทางให้รัฐบาลยูเครนสามารถระงับการจ่ายหนี้ต่างประเทศให้กับเจ้าหนี้ที่ไม่เปิดเผยตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชนของประเทศนี้ที่ต้องทนกับสภาพสงครามกลางเมืองอยู่ทุกวัน”

หลังจากมีข่าวก่อนหน้านี้เสนอโดย City A.M สื่อออนไลน์ธุรกิจอังกฤษว่า การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างสถาบันการลงทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ แฟรงกลิน เทมเฟลตัน อินเวสต์เมนต์ส์ (Franklin Templeton Investments)กับรัฐบาลยูเครนต้องชะงักงันชั่วคราว หลังจากที่ยูเครนกล่าวหาบริษัทการเงินแห่งนี้ปราศจากความโปร่งใส เพราะไม่เปิดเผยรายนามชื่อเครดิเตอร์ ให้รับทราบ และสอดคล้องกับเสียงประณามของลอเรนซ์ ซัมเมอร์ส (Lawrence Summers) รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯประณามว่า เป็นการเห็นแก่ตัวที่ไม่เปิดเผยรายชื่อเจ้าหนี้บอนด์ยูเครน

การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ก้อน 23 พันล้านดอลลาร์ไม่คืบหน้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่ไม่ตกลงที่เคียฟต้องการให้มีการแฮร์คัตวงเงินหนี้บอนด์ลง

นอกจากนี้การผ่านมติระงับการจ่ายเงินกู้ออกมา 1 วันก่อนที่จะมีการประชุมรัฐมนตรีการคลังอียูหารือที่กรุงริกา ลัตเวียร์ ในหัวข้อจะทำให้สภาวะการคลังยูเครนมีเสถียรภาพได้อย่างไร ท่ามกลางสงครามกลางเมืองยูเครนระหว่างการต่อสู้ของกบฎยูเครนที่ทางเคียฟกล่าวหาว่ารัสเซียให้การสนับสนุน และกองทัพยูเครน

และอีกทั้งจาเรสโคได้ให้ความเห็นมานานหลายเดือนแล้วถึงสภาวะสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างหนักของยูเครนในไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหลังจากที่มีราคาน้ำมันโลกดิ่งเหว และการที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อยูเครนเพราะรัสเซียเป็นคู่ค้ารายใหญ่คนสำคัญของยูเครน

นอกจากนี้รัฐมนตรีการคลังยูเครนต้องการให้ตัวเลขหนี้ต่างชาติถูกหั่นลง และกำหนดการชำระคืนเงินกู้ถูกยืดอายุออกไป เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และจาเรสโคยังต้องการเจ้าหนี้ภาคเอกชน เช่น สหรัฐฯ แฟรงกลิน เทมเฟลตัน อินเวสต์เมนต์ส์ ลดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลยูเครนที่ถืออยู่

และท้ายสุดจาเรสโคยังให้ความเห็นว่า ยูเครนกำลังเผชิญปัญหา ราคาก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด บวกความต้องการของเจ้าหนี้เอกชนที่ได้ถือบอนด์ยูเครนซึ่งทางบริษัทถือมายาวนานราว 2 ปี ต้องการให้เคียฟชำระเต็มวงเงิน ทำให้ประเทศอยู่เหมือนสภาพที่เหมือนช่วยตัวเองไม่ได้ โดยจาเรสโคอธิบายว่า หนี้สาธารณะของยูเครนเพิ่มเป็น 71% ซึ่งถือว่ายังรับได้เมื่อเทียบกับอังกฤษและเยอรมันที่มีตัวเลขหนี้สาธารณะสูงกว่านี้ แต่ทว่ายูเครนไม่ได้อยู่ในสภาพปกติ เพราะยังมีสงครามกลางเมือง ทำให้สถานการณ์ทางการเงินเลวร้ายลง

อย่างไรก็ตามสื่ออังกฤษชี้ว่า มาตรการระงับการจ่ายหนี้ชั่วคราวจะไม่ครอบคลุมไปถึงหนี้ของหน่วยงานที่มีรัฐบาลเคียฟเป็นเจ้าของ เช่น ธนาคารUkrexim ธนาคารOschad และหน่วยงานรถไฟแห่งชาติยูเครน ซึ่งมีการปรับโครงสร้างหนี้เหล่านี้ด้วยเช่นกัน