เอเจนซีส์ /เอพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังเกิดเหตุรถไฟแอมแทร็คมรณะสายตะวันออกเฉียงเหนือ 188 วิ่งตกรางในคืนวันอังคาร(12)ที่ผ่านมาทางตอนเหนือของฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย และทำให้มีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 243 คน และล่าสุดเมื่อวานนี้(14) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯพบร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 8 จากซากตัวรถไฟได้สำเร็จ ในขณะที่คณะกรรมการดูแลความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ NTSB พบรถไฟแอมแทร็คเร่งความเร่งถึง 170 กม/ชม (106 ไมล์/ชม) ก่อนแหกโค้งหักศอก เร็วเป็น 2 เท่าเกิดมาตรฐานกำหนด ด้านแบรนดอน บอสเตียน ( Brandon Bostian )นายช่างควบคุมขบวน 188 แถลงผ่านทนายความ สารภาพจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้(14)ว่า การเปิดเผยรายงานการสอบสวนเบื้องต้นของคณะกรรมการดูแลความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ NTSB พบว่า ในคืนวันอังคาร(14) รถไฟแอมแทร็คขบวน 188 เร่งความเร่งถึง 170 กม/ชม (106 ไมล์/ชม) ก่อนวิ่งเข้าโค้งมรณะ และตกรางเป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 รายและผู้บาดเจ็บไม่น้อยกว่า 243 คน
โรเบิร์ต ซัมวอล์ต (Robert Sumwalt) สมาชิก NTSB ให้ความเห็นกับกอ’ทัพนักข่าวว่า มาจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมรถไฟแอมแทร็คสายตะวันออกเฉียงเหนือ 188 นั้นต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงเช่นนั้น ซึ่งการทดสอบเบื้องต้นชี้ว่า รถไฟขบวนนี้วิ่งมาตามกำหนดปกติ รวมไปถึงไม่มีปัญหากับไฟหน้าของตัวหัวจักร สัญญาณไฟ หรือรางรถไฟ
ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนต้องการทราบว่า ความเร็วสุดท้ายสูงถึง 170 กม/ชม นั้นเกิดมาจากปัญหาจากคนขับ หรือเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ หรืออื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าตกใจว่าเส้นทางที่ขบวน 188 วิ่งนี้กลับไม่มีอุปกรณ์ตรวจจับความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนราง ซึ่งสื่อสหรัฐฯรายงานว่า ปัญหาแอมแทร็คตกรางเกิดจากการที่ไม่มีเงินงบประมาณที่ได้รับจากสภาคองเกรสมากพอเพื่อจะมาปรับปรุงการให้บริการแบบระบบรางในสหรัฐฯ และพบว่า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดอุบัติเหตุสมาชิกสภาคองเกรสสายรีพับลิกันได้มีความเห็นให้ตัดลดงบประมาณสนับสนุนแอมแทร็คล่าสุด
และเมื่อพิจารณาดูระบบการขนส่งสาธารณะในสหรัฐฯจะพบว่า สหรัฐฯซึ่งถือเป็นชาติอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลก แต่กลับมีระบบการขนส่งสาธารณะที่ล้าหลังเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เป็นต้น สหรัฐฯไม่มีระบบรถไฟความเร็วสูงวิ่งระหว่างรัฐ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า การคมนาคมระหว่างรัฐนั้นมักจะเป็นการเดินทางอากาศ หรือรถบัสเกรย์ฮาว ซึ่งช้า ไม่สะดวก และบรรทุกผู้โดยสารได้น้อย นอกเหนือไปจากการขับรถส่วนตัว ซึ่งการมีรถยนต์ถือเป็นสิ่งแรกที่ชาวอเมริกันทุกคนต้องเรียนรู้เพื่อที่จะสามารถดำรงชีวิตตามปกติในสหรัฐฯได้
และสอดคล้องกับการให้ความเห็นของซัมวอล์ตว่า อุบัติเหตุครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากว่า มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับความเร็วบนรางวิ่ง (Positive Train Control) ที่อุปกรณ์ควบคุมความปลอดภัยนี้ที่คาดว่าจะได้รับการติดตั้งบนระบบรางทั่วสหรัฐฯภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งในเส้นทางที่ขบวน 188 วิ่งนั้นยังไม่มีระบบจับความเร็วแต่อย่างใด
ด้านเอพีรายงานเพิ่มเติมว่า ไมเคิล นัตเตอร์ (Michael Nutter) เทศมนตรีเมืองฟิลาเดลเฟียแถลงเมื่อวานนี้(14)ว่า มีการพบร่างเสียชีวิตของผู้โดยสารไม่ทราบชื่อรายที่ 8 บนซากรถไฟที่เกิดเหตุ และจากจุดนี้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนได้พบจำนวนผู้โดยสารและพนักงานรถไฟทุกคนครบแล้ว
ในขณะที่หน่วยงานดับเพลิงฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า สุนัขดมกลิ่นค้นหาเป็นผู้ค้นพบร่างผู้โดยสารรายล่าสุด
นอกจากนี้นัตเตอร์ยังกล่าวถึงนายช่างขบวน 188 ในการให้สัมภาษณ์กับCNN สื่อสหรัฐฯว่า “กระทำการโดยประมาทขั้นร้ายแรง” เพราะไม่มีในโลกนี้ที่นายช่างควบคุมรถไฟจะขับรถไฟวิ่งด้วยความเร็วสูงในขณะที่กำลังเข้าโค้งหักศอก
อย่างไรก็ตาม เอพีรายงานว่า ด้านแบรนดอน บอสเตียน ( Brandon Bostian )นายช่างควบคุมขบวน 188 แถลงผ่านทนายความ สารภาพจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ ซึ่งมาจนถึงขณะนี้บอสเตียนยังไม่ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ
“เขาจำได้ว่ารถไฟกำลังจะเข้าโค้ง และยังจำได้ว่าเขาพยายามจะลดความเร็วรถไฟลง และหลังจากนั้นได้หมดสติไป” โรเบิร์ต ก็อกกิน (Robert Goggin) ทนายความของบอสเตียนให้สัมภาษณ์กับเอบีซี สื่อสหรัฐฯ และกล่าวต่อว่า สิ่งสุดท้ายที่นายช่างวัย 32 ปีจำได้คือ พยายามหากระเป๋าของตัวเองเพื่อหาโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรศัพท์ร้องขอความช่วยเหลือ
และก็อกกินยังให้รายละเอียดถึงอาการบาดเจ็บของลูกความว่า มีอาการศรีษะกระแทก และสมองได้รับอาการกระทบกระเทือน และบนศรีษะต้องเย็บถึง 14 เข็ม และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเมื่อรับรูถึงจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังยืนว่า บอสเตียนให้ความร่วมมือกับทางตำรวจฟิลาเดลเฟียอย่างเต็มที่ โดยการให้ตวจเลือดและมอบโทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจสอบ ซึ่งผลออกมาว่าชายผู้นี้ไม่มีสารเสพติด หรือสิ่งใดในร่างกายในขณะขับขี่
เอพีรายงานว่า บอสเตียนพยายามใช้เบรกเพื่อลดความเร็วของรถไฟขบวนนี้ ซึ่งความเร็วสุดท้ายที่กล่องดำของแอมแทร็ค 188 บันทึกไว้ได้ครั้งสุดท้ายก่อนจะหยุดทำงานอยู่ที่ 164 กม/ชม (102 ไมล์/ชม) ซัมวอล์ตเปิดเผยว่า ความเร็วจำกัดในช่วงก่อนเข้าโค้งคือ 124 กม/ชม 80 ไมล์/ชม