xs
xsm
sm
md
lg

องค์กรผู้อพยพวอนรบ.อาเซียนช่วยชีวิต “โรฮีนจา” หลายพันที่เสี่ยงตายอยู่กลางทะเล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี – องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization of Migration - IOM) และสหประชาชาติ วิงวอนให้รัฐบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจาหลายพันคนที่ลอยเรือมากลางทะเลโดยปราศจากทั้งอาหารและน้ำดื่ม พร้อมเตือนว่าคนเหล่านี้อาจไม่รอดหากทุกๆ ประเทศยังคงนิ่งดูดาย

ปัญหาผู้ลี้ภัยทางเรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังถูกจับตามองโดยองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ หลังจากเมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) กองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยว่า ได้ผลักไสเรือที่มีชาวโรฮีนจาจากเมียนมาร์และบังกลาเทศหลายร้อยคนออกไปจากน่านน้ำจังหวัดอาเจะห์ และปล่อยให้พวกเขาเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลตามยถากรรม

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาและบังกลาเทศได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งมาเลเซียและอินโดนีเซียเกือบ 2,000 คนในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลังจากที่ไทยซึ่งเป็นประเทศเชื่อมต่อสำคัญมีมาตรการกวาดล้างเครือข่ายค้ามนุษย์อย่างจริงจัง

กลุ่ม อาระกัน โปรเจ็คต์ ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสิทธิชาวโรฮีนจา ระบุว่า เวลานี้อาจมีผู้อพยพชาวโรฮีนจาติดอยู่กลางทะเลอีกมากถึง 8,000 คน ขณะที่ไอโอเอ็มเรียกร้องให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องส่งหน่วยกู้ภัยเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยด่วน

“เรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งภูมิภาค... เราเองไม่มีศักยภาพพอที่จะไปค้นหาพวกเขา แต่รัฐบาลซึ่งมีทั้งเรือและดาวเทียมสามารถทำได้” โจ ลอว์รี โฆษกไอโอเอ็มในกรุงเทพมหานครให้สัมภาษณ์วันนี้ (12) พร้อมทั้งเตือนว่า ผู้ลี้ภัยที่อยู่กลางทะเล “คงมีสภาพอิดโรยเต็มที และอาจเสียชีวิต” หากไม่มีใครไปพบและช่วยเหลือโดยเร็ว

ชาวมุสลิมโรฮีนจาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่รัฐบาลเมียนมาร์ไม่ต้องการ รวมถึงผู้อพยพชาวบังกลาเทศ ได้ใช้เส้นทางค้ามนุษย์ทั้งทางเรือและทางบกหนีความยากลำบากในบ้านเกิดมายังไทยและมาเลเซียปีละหลายพันคน

คลื่นผู้อพยพจำนวนมากที่ถูกช่วยขึ้นฝั่งมาเลเซียและอินโดนีเซียในช่วง 2-3 วันนี้ น่าจะเกิดจากแก๊งค้ามนุษย์ตัดสินใจทิ้งเรือที่มีผู้คนเหล่านี้โดยสารมา หลังมีการพบค่ายชาวโรฮีนจาและหลุมฝังศพจำนวนมากซ่อนอยู่กลางป่าลึกในภาคใต้ของไทยเมื่อต้นเดือนนี้จนเป็นเหตุให้รัฐบาลสั่งกวาดล้างอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม นักสิทธิมนุษยชนเตือนว่า มาตรการปราบปรามของไทยอาจทำให้ผู้ลี้ภัยหลายพันคนต้องลอยเรืออยู่กลางทะเลโดยปราศจากทั้งอาหารและน้ำ ส่วนพวกเครือข่ายค้ามนุษย์ก็คงหาเส้นทางลำเลียงคนใหม่ไม่ให้ถูกสกัดจับได้

วิเวียน ตัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภับแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในกรุงเทพมหานคร ระบุว่า “ดูเหมือนผู้อพยพเหล่านั้นถูกแก๊งค้ามนุษย์จับเป็นตัวประกันอยู่กลางทะเล เพราะไม่กล้าที่จะนำขึ้นฝั่ง”

“จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกประเทศแถบนี้ต้องร่วมมือกัน เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด” ในการแก้ไขปัญหา... และ UNHCR ก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุนเต็มที่ ตัน กล่าว

ธุรกิจค้ามนุษย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฟื่องฟูมานานหลายปี เนื่องจากรัฐบาลแต่ละประเทศไม่มีความร่วมมืออย่างจริงจังในการปราบปราม หรือแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา

ท่าทีของกองทัพอินโดนีเซียที่ผลักไสเรือผู้อพยพราว 400 คนออกไปจากน่านน้ำจังหวัดอาเจะห์เมื่อวานนี้ (11) ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

มานาฮัน สิโมรังกีร์ โฆษกกองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยว่า “เราได้ให้น้ำมันเชื้อเพลิงแก่พวกเขา และขอให้เดินทางต่อไปที่อื่น... เราไม่ได้บังคับให้พวกเขาต้องกลับไปมาเลเซียหรือออสเตรเลีย นั่นไม่ใช่ธุระของเรา หน้าที่ของเราคือต้องป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้ามาในอินโดนีเซีย เพราะอินโดนีเซียไม่ใช่จุดหมายปลายทาง”

เมื่อไม่นานนี้ รัฐบาลไทยได้เสนอให้มีการจัดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เมียนมาร์และมาเลเซีย เพื่อหาวิธีรับมือขบวนการค้ามนุษย์ที่ส่งผู้ลี้ภัยมาทางเรือ แต่ก็ยังไม่มีทั้งเสียงตอบรับ หรือแผนอันเป็นรูปธรรมที่จะช่วยผู้อพยพซึ่งยังคงลอยเรืออยู่กลางทะเล




กำลังโหลดความคิดเห็น