รอยเตอร์ - สภาพอากาศเลวร้ายทำให้เจ้าหน้าที่ขาดการติดต่อกับหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่งของเนปาล ซึ่งเชื่อว่ามีชาวบ้านและนักปีนเขานับร้อยชีวิตถูกฝังอยู่ใต้หิมะที่ถล่มลงมาจากแรงเขย่าของแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะเดียวกันได้มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเนปาลและองค์กรนานาชาติบางแห่งต่อแนวทางจัดการความช่วยเหลือที่หลั่งไหลเข้าไปยังประเทศแห่งนี้ โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุของความสับสนและล่าช้า
รัฐบาลเปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เมษายน ล่าสุดพุ่งแตะ 7,566 ศพ และบาดเจ็บ 14,500 คน โดยในนั้นมีราว 100 ศพเก็บกู้ได้ในช่วงวันเสาร์ (2 พ.ค.) และวันอาทิตย์ (3 พ.ค.) ที่ผ่านมา ณ หมู่บ้านลังตัง ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางเหนือราว 60 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางปีนเขายอดนิยมของชาวตะวันตก
ตลอดทั้งหมู่บ้านซึ่งรวมถึงเกสต์เฮาส์สำหรับนักปีนเขา 55 แห่งถูกหิมะถล่มเล่นงาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งมือขุดลงไปใต้หิมะท่ามกลางข้อสันนิษฐานว่าอาจจะมีผู้คนอีกราวๆ 120 ชีวิตถูกฝังอยู่เบื้องล่าง
กัวตัม ริมาล รองหัวหน้าสำนักงานเขตในพื้นที่ซึ่งหมู่บ้านลังตังตั้งอยู่ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกับหมู่บ้านลังตังมานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ขณะที่ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 คน แต่เพิ่งระบุตัวตนได้เพียง 2 ราย
ขณะเดียวกัน ได้มีข้อพิพาทกันระหว่างเนปาลกับองค์กรนานาชาติบางแห่งต่อแนวทางจัดการกับความช่วยเหลือที่หลั่งไหลเข้าไปยังประเทศแห่งนี้ตามหลังแผ่นดินไหว ซึ่งต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุของความสับสนและให้ความช่วยเหลือเหยื่อล่าช้า
จากความผิดหวังในด้านขาดการประสานงาน เหล่าผู้บริจาคบางส่วนจึงหลีกเลี่ยงประสานงานกับเจ้าหน้าที่และหันมาจัดส่งเบียงโดยตรงผ่านองค์การนอกภาครัฐ (เอ็นจีโอ) แทน เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยต่อไป ผู้ช่วยของนายกรัฐมนตรีซูซิล คอยราลา กล่าว “มีความเห็นต่างระหว่างรัฐบาลและเหล่าผู้บริจาคบางส่วนต่อเรื่องนี้”
รัฐบาลเริ่มร้องขอคณะทำงานต่างชาติยุติปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในขณะที่ความหวังค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากหักพักนั้นเลือนลาง “พวกเขาสามารถกลับไปได้ แต่หากพวกเขาผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเก็บกวาดเศษซากปูน ก็สามารถอยู่ต่อได้” เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยเนปาลบอกกับรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.)
แหล่งข่าวสหภาพยุโรปเผยว่าตอนนี้มีพลเมืองของกลุ่ม 28 ชาติสมาชิกแค่ 60 คนที่ยังสูญหาย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสคนหนึ่งของอียูคาดหมายว่ามีพลเมืองอียูราว 1,000 คนที่สูญหายในแผนดินไหวครั้งนี้ “จำนวนผู้สูญหายลดลงในทุกๆ ชั่วโมง ในขณะที่ทีมกู้ภัยเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล”
โฆษกกระทรวงมหาดไทยเนปาลเผยว่ารัฐบาลได้รับแจ้งว่ามีประชาชนสูญหาย 318 คน ในนั้นรวมถึงชาวต่างชาติ แต่คนอื่นๆ อีกมากอาจถูกฝังใต้ดินถล่มหรือซากหักพังของที่พักอาศัย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการเนปาลเผยว่าจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวปีนป่ายขึ้นสู่ยอดเอเวอเรสต์ได้ตามปกติ แม้เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงกระตุ้นให้เกิดหิมะถล่มลงมาคร่าชีวิตคนที่เบสแคมป์ไป 18 ราย และแรงสั่นสะเทือนได้สร้างความเสียหายแก่เส้นทางที่มุ่งสู่ยอดเขาก็ตาม
สหประชาชาติเผยว่า มีประชาชน 8 ล้านคนจากทั้งหมด 28 ล้านคนของเนปาล ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้ โดยอย่างน้อยๆ 2 ล้านคนต้องการเตนท์ น้ำสะอาด อาหารและยาตลอดช่วง 3 เดือนข้างหน้า ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยของเนปาลบอกว่ารัฐบาลจะมอบความช่วยเหลือเบื้องต้น 1,000 ดอลลาร์สหรัฐแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และเงินค่าฌาปนกิจหรือฝังศพอีก 400 ดอลลาร์สหรัฐ
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) บอกว่ามีเด็กมากกว่า 5 แสนคนที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดระบาด ขณะเดียวกันก็มีเด็กๆราว 1.7 ล้านคนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ที่ยังต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน