รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น - ประชาชนที่ติดค้างตามหมู่บ้านและเมืองห่างไกลต่างๆทั่วเนปาลในวันอังคาร (28 เม.ย.) ยังคงเฝ้ารอการเดินทางมาถึงของความช่วยเหลือและสิ่งของบรรเทาทุกข์ 4 วันหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหวรุนแรงทำลายอาคารบ้านเรือนและท้องถนน ที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดทะลุ 5,000 ศพ อย่างไรก็ตาม พอมีข่าวดีบ้างเมื่อพบผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์เป็นระยะ โดยรายหนึ่งติดอยู่ใต้ซากหักพังร่วมกับศพนานถึง 80 ชั่วโมง
รัฐบาลยังไม่สามารถประเมินของเขตความเสียหายจากมหันตภัยแผ่นดินไหวระดับ 7.9 เมื่อวันเสาร์ (25 เม.ย.) ได้อย่างเต็มที่ โดยยังมิอาจเข้าถึงพื้นที่แถบภูเขาจำนวนมาก แม้เสบียงช่วยเหลือและบุคลากรกำลังหลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลก
นายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลาของเนปาล ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ในวันอังคาร (28) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะทะลุหลัก 10,000 คน ในขณะที่ข้อมูลข่าวสารเรื่องความเสียหายจากหมู่บ้านและตำบลห่างไกลยังคงมาไม่ถึง ถ้าเป็นจริงนั่นเท่ากับว่ามันจะมากกว่ายอดผู้เสียชีวิต 8,500 ศพในแผ่นดินไหวเมื่อปี 1934 อันเป็นหายนะครั้งเลวร้ายหนสุดท้ายที่เล่นงานประเทศแห่งนี้
เขาบอกว่ารัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้แล้วในการค้นหาและกู้ภัย แต่การส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ทุรกันดารเป็นภารกิจที่ท้าทายและยากลำบากมาก จากนั้นระหว่างการแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ในช่วงค่ำวันอังคาร (28 เม.ย.) นายกรัฐมนตรีรายนี้ได้ประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน
เนปาลได้แจ้งต่อองค์กรความช่วยเหลือต่างๆ ว่าไม่ต้องการคณะช่วยเหลือตามหาผู้รอดชีวิตจากต่างชาติเพิ่มเติมอีก โดยยืนย้นว่ารัฐบาลและกองทัพสามารถรับมือได้ อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์มองว่าโอกาสค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากหักพังเริ่มเลือนลาง เนื่องจากหายนะครั้งนี้ผ่านพ้นมากว่า 4 วันแล้ว
“หลัง 72 ชั่วโมงแรกผ่านไป อัตราผู้รอดชีวิตลดลงอย่างกะทันหันและเราเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว” วอจเทค วิลค์ จากศูนย์ช่วยเหลือนานาชาติโปแลนด์ องค์กรเอ็นจีโอที่ส่งเจ้าหน้าที่แพทย์ 6 คนและทีมดับเพลิง 81 นายเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยในเนปาลกล่าว “พอเข้าสู่วันที่ 5 โอกาสจะขยับเข้าใกล้ศูนย์”
ท่ามกลางความหวังที่เลือนลาง ทีมช่วยเหลือเนปาลกับฝรั่งเศสคณะหนึ่ง สามารถดึงชายวัย 28 ปี ออกจากซากหักพังของอาคารอพาร์ตเมนต์ในกาฐมาณฑุ หลังติดอยู่ภายในห้องห้องหนึ่งร่วมกับร่างไร้วิญญาณ 3 ศพนานราวๆ 80 ชั่วโมง หลังจากก่อนหน้านี้คุณแม่ลูก 4 วัย 40 ปี ที่ติดอยู่ภายในห้องชั้นล่างของอาคารอพาร์ตเมนต์ 5 ชั้นนาน 36 ชั่วโมง ก็ได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยอินเดีย โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
อย่างไรก็ตาม ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตโครคาของเนปาลซึ่งอยู่ติดกับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ผู้หญิงอีกคนไม่เคราะห์ดีเช่นนั้น โดยในขณะที่สามีของเธอไปหากินในอินเดียและไม่พบเห็นว่าจะมีความช่วยเหลือเข้ามา เธออดทนขุดรื้อซากหักพังของบ้านที่พังถล่มลงมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อค้นหาลูกๆ และสุดท้ายใจแทบสลายเมื่อพบร่างไร้วิญญาณของลูกน้อย 2 คน ลูกสาววัย 10 ขวบและลูกชายวัย 8 ขวบ โดยมีเพียงลูกชายวัย 4 ขวบอีกคนเท่านั้นที่รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์
ในหมู่บ้าน Barpak อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือ เฮลิคอปเตอร์ของทีมช่วยเหลือไม่สามารถหาที่ลงจอดได้ และในวันอังคาร (28 เม.ย.) ทหารต้องเคลื่อนพลทางบก เริ่มจากรถบัสต่อด้วยเดินเท้าเพื่อเข้าไปให้ถึงพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้แล้วเฮลิคอปเตอร์ทหารยังทำได้แค่บินวนเหนือหมู่บ้าน Laprak และหย่อนอาหารลงไปในความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิตมารับมันไป ท่ามกลางการคาดหมายของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นว่าบ้านเรือนราว 1,600 หลังจากทั้งหมด 1,700 ในพื้นที่นี้พังราบเป็นหน้ากอง
ที่สินธุปัลโชค ขับรถจากกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 3 ชั่วโมงครึ่ง แผ่นดินไหวที่ตามมาด้วยดินถล่มได้คร่าชีวิตชาวบ้าน 1,182 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 376 คน ด้วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเกรงว่ายังมีอีกมากที่ติดอยู่ใต้ซากหักพังและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ความช่วยเหลือจากนานาชาติเริ่มทยอยมาถึงเนปาล แต่การแจกจ่ายเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนหนึ่งเพราะมีอฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นเป็นพักๆ ใกล้สนามบิน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาแล้วนั้น จนถึงช่วงค่ำวันอังคาร เฉพาะในเนปาลประเทศเดียวยอดอยู่ที่ 5,057 คน ในจำนวนนี้เป็นนักปีนเขา 18 คนที่ถูกหิมะถล่มบนเอเวอเรสต์ ขณะที่นักปีนเขาที่รอดชีวิตนั้น ได้รับการอพยพด้วยเฮลิคอปเตอร์ลงมาทั้งหมดแล้ว สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ประมาณ 9,200 คน นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตในชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดียและจีนมากกว่า 100 คน
ในช่วงเย็นวันอังคาร เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเนปาลรายงานว่า ได้เกิดหิมะถล่มในตอนบ่ายวันนั้นที่เขตโกดาตาเบลา ซึ่งเป็นพื้นที่บนเส้นทางไต่เขา “ลังตัง” ซึ่งได้รับความนิยมกันมาก และเกรงว่ามีคนสูญหายไปราว 250 คน ทั้งนี้เทือกเขาลังตัง ตั้งอยู่ค่อนข้างใกล้กับกรุงกาฐมาณฑุ และเป็นที่นิยมในหมู่นักปีนเขาต่างชาติ
สหประชาชาติประมาณการว่า นอกจากผู้บาดเจ็บล้มตายแล้ว ยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติรุนแรงนี้ถึง 8 ล้านคน และ 1.4 ล้านคนต้องการอาหาร พร้อมกันนี้ ยูเอ็นยังจัดสรรเงินจากกองทุนฉุกเฉินให้เนปาล 15 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้องค์กรด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติเร่งรัดปฏิบัติการ รวมทั้งจัดหาที่พักพิง น้ำ ยา และบริการด้านลอจิสติกส์