รอยเตอร์ - กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยบุกปล้นชิงร้านค้าและเผาอาคารในเมืองบัลติมอร์เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) หลังจากมีพิธีศพของชายผิวสีวัย 25 ปีที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจสหรัฐฯ จับกุม โดยผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และส่งทหารเนชันแนลการ์ดหลายพันนายเข้าควบคุมสถานการณ์
เหตุจลาจลปะทุขึ้นไม่ไกลจากสถานที่จัดพิธีศพของ เฟรดดี เกรย์ ก่อนจะลุกลามต่อไปทั่วฝั่งตะวันตกของบัลติมอร์ ถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ประท้วงในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี เมื่อปีที่แล้ว
ลาร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมส่งกองกำลังเนชันแนลการ์ดและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมไฟที่ลุกไหม้อาคารและรถยนต์ ขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างน้อย 27 ราย และจะมีการสั่งปิดโรงเรียนทั่วเมืองบัลติมอร์ในวันนี้ (28)
สเตฟานี รอว์ลิงส์-เบลค นายกเทศมนตรีเมืองบัลติมอร์ ประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าเป็น “อันธพาล” และออกคำสั่งเคอร์ฟิวทั่วเมืองสำหรับพลเมืองวัยผู้ใหญ่ตั้งแต่คืนวันอังคาร (28) เป็นต้นไป เว้นเฉพาะผู้ที่ทำงานกะกลางคืน หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
ข่าวการเสียชีวิตของเกรย์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ทำให้สังคมอเมริกันรู้สึกโกรธเกรี้ยวกับความรุนแรงที่ตำรวจกระทำต่อคนผิวสีซึ่งถือเป็นวิกฤตที่ร้อนระอุมาตั้งแต่ปีที่แล้วจากกรณีการยิงสังหารชายผิวสีไร้อาวุธที่เมืองเฟอร์กูสัน นครนิวยอร์ก และอีกหลายเมือง
ตำรวจบัลติมอร์ใช้สเปรย์พริกไทยปราบผู้ประท้วงซึ่งพยายามบุกเข้าไปปล้นเงินในร้านขายสุรา ก่อนที่การปล้นทรัพย์สินจะลุกลามต่อไปยังห้างสรรพสินค้าอีกแห่ง และมีการทุบทำลายกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าโรงแรมใหญ่
ผู้ประท้วงยังตัดสายยางฉีดน้ำที่พนักงานดับเพลิงใช้ควบคุมไฟที่ไหม้ร้านขายยาซีวีเอส ซึ่งถูกปล้นและจุดไฟเผาก่อนหน้านั้น
สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลให้โรงเรียน ห้างร้าน และสถานีรถไฟในเมืองซึ่งมีประชากรราว 662,000 คนต้องปิดทำการชั่วคราว
“เหตุการณ์อย่างนี้ยังไงก็ต้องเกิด เพราะประชาชนรับไม่ได้ที่ตำรวจมาฆ่าคนหนุ่มผิวสีอย่างไม่มีเหตุผล ถึงจะเป็นวันที่น่าเศร้าแต่มันก็ต้องเกิดขึ้น” โทนี ลัสเตอร์ วัย 40 ปี ชายพิการซึ่งออกมายืนดูสถานการณ์ใกล้ๆ แถวตำรวจ กล่าว
เกรย์ เสียชีวิตเพราะคอหักระหว่างที่ตำรวจเข้าจับกุมโดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ผลการชันสูตรที่ได้รับการเปิดเผยจากทนายความของครอบครัวผู้เสียชีวิตระบุว่า “กระดูกคอได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 80% กระดูกสันหลังส่วนคอหัก 3 ข้อ และกล่องเสียงเสียหาย”
ครอบครัวของเกรย์วิงวอนให้ประชาชนที่เห็นใจชะตากรรมของผู้ตายออกมาชุมนุมโดยสันติ แต่หลังจากเกิดการปล้นชิงร้านค้า ศาสนาจารย์และผู้นำชุมชนก็พยายามออกมาขวางไม่ให้ตำรวจปะทะกับกลุ่มวัยรุ่นผิวสี
ความรุนแรงที่ยกระดับขึ้นอย่างกะทันหันสร้างความตกตะลึงไม่น้อยต่อเจ้าหน้าที่เมืองบัลติมอร์ ซึ่งไม่คาดคิดว่าการชุมนุมโดยสันติตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะกลับกลายเป็นเหตุจลาจลครั้งใหญ่
ลอเร็ตตา ลีนช์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งเข้าพิธีสาบานตนหมาดๆ เมื่อวานนี้ (27) กล่าวประณาม “การกระทำที่ไร้สติและความรุนแรง” ที่เกิดขึ้นในบัลติมอร์ พร้อมประกาศว่าภารกิจหลักที่เธอจะผลักดันก็คือการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจกับชุมชนที่พวกเขาต้องปกป้อง
ตำรวจบัลติมอร์เตรียมสรุปผลการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ เกรย์ ในวันศุกร์นี้ (1 พ.ค.) ก่อนจะส่งเรื่องไปยังอัยการรัฐ ล่าสุดมีตำรวจถูกพักงาน 6 นาย และกระทรวงยุติธรรมก็อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายละเมิดสิทธิพลเมืองหรือไม่