เอเจนซีส์ - เครื่องบินรบของพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย กลับเปิดการโจมตีครั้งใหม่ในเยเมนเมื่อวันพุธ (22 เม.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ริยาด ประกาศยุติการปฏิบัติการทางอากาศของพวกตนที่ดำเนินมาได้ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางการสู้รบภาคพื้นดินซึ่งปะทุรุนแรงขึ้น โดยที่ฝ่ายกบฎได้เข้ายึดที่มั่นสำคัญในเมืองใหญ่อันดับ 3 ของเยเมน ขณะที่ก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร (21) เตือนอิหร่านด้วยถ้อยคำชัดเจนที่สุดให้ยุติการส่งอาวุธแก่พวกกบฏฮูตี
พันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบียเคยระบุไว้แล้วว่า ยังคงเตรียมพร้อมเพื่อทำการตอบโต้ต่อการรุกคืบใดๆ ของพวกกบฏฮูตีและพันธมิตร ถึงแม้ตั้งแต่เวลา 00.00 น.วันพุธ จะยุติการโจมตีทิ้งระเบิดในเยเมนที่ดำเนินมาตลอด 4 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าการสู้รบภาคพื้นดินระหว่างพวกกบฎ กับกองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอเบดรับโบ มันซูร์ ฮาดี ซึ่งเวลานี้ต้องหลบไปลี้ภัยอยู่ในซาอุดีอาระเบีย กลับปะทุรุนแรงขึ้นในสมรภูมิชิงเมืองสำคัญๆ หลายแห่ง รวมทั้งในเมืองเอเดน เมืองท่าสำคัญที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเยเมน และที่เมืองตาเอซ เมืองใหญ่อันดับ 3 จึงเป็นการดับความหวังในการเปิดเจรจาสันติภาพขึ้นมาใหม่
ในเมืองตาเอซ พวกกบฏได้ฉวยประโยชน์ตอนที่การถล่มทางอากาศซาลงไป บุกเข้ายึดกองบัญชาการของกองพลน้อยยานเกราะที่ 35 ซึ่งภักดีต่อฮาดี หลังจากที่พวกเขาเข้าปิดล้อมมาเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ทั้งนี้ตามการเปิดเผยองนายทหารบกผู้หนึ่งต่อสำนักข่าวเอเอฟพี
จากนั้นพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียจึงได้กลับมาโจมตีทางอากาศใส่ที่มั่นต่างๆ ของพวกกบฏภายในค่ายที่พวกเขายึดไป ตลอดจนตามบริเวณอื่นๆ ในเมืองตาเอซ นายทหารผู้นี้บอกและระบุว่า การสู้รบทำให้มีผู้ล้มตายและบาดเจ็บหลายสิบคน
องค์การอนามัยโลก (ฮู) ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม มีประชาชนในเยเมนถูกสังหารไปอย่างน้อย 944 คนแล้ว และมีเสียงเรียกร้องจากทั้งสองฝ่ายให้เร่งรีบส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้โดยด่วน
ตอนที่ริยาดประกาศระงับการโจมตีทางอากาศตั้งแต่ 00.00 น.วันพุธนั้น ได้ระบุว่าการเปิดปฏิบัติการทางอากาศของพันธมิตรอาหรับซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม ตอนที่พวกกบฏรุกเข้าใกล้สถานที่หลบภัยสุดท้ายของฮาดีในเมืองเอเดนนั้น ได้ประสบความสำเร็จแล้วในการกำจัดภัยคุกคามที่มีต่อซาอุดีอาระเบียและชาติเพื่อนบ้าน จากสมรรถนะทางอากาศและทางด้านขีปนาวุธของพวกกบฏ
กระนั้น กองกำลังกบฏยังคงสามารถควบคุมเมืองหลวงซานา และพื้นที่อื่นๆ ของประเทศเป็นบริเวณกว้าง แต่ริยาดระบุว่าเวลานี้การปฏิบัติการของพันธมิตรของตนจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ซึ่งเป็นขั้นตอนทางการเมือง โดยมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูการเจรจาสันตภาพ, การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และ “การสู้รบกับพวกผู้ก่อการร้าย”
ทั้งนี้ พวกอัลกออิดะห์สาขาเยเมนซึ่งวอชิงตันเคยระบุว่าเป็นกลุ่มที่มีอันตรายมากที่สุดนั้น ได้ฉวยโอกาสที่ฝ่ายอื่นๆ ทำศึกกันอยู่ เข้ายึดครองจังหวัดฮาดรามาว์ต ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเยเมน ให้เหนียวแน่นมั่นคงยิ่งขึ้น
หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียประกาศหยุดการทิ้งระเบิด แต่ยังไม่ได้เริ่มเปิดการถล่มอีกรอบนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ให้สัมภาษณ์รายการ “ฮาร์ดบอลล์” ของเอ็มเอสเอ็นบีซีเมื่อวันอังคาร โดยกล่าวว่า วอชิงตัน “ส่งข้อความที่ชัดเจนมาก” ถึงเตหะรานเกี่ยวกับวิกฤตเยเมน
“ขณะนี้ กองเรืออิหร่านอยู่ในน่านน้ำสากล และนี่คือเหตุผลที่เราต้องคงเรือรบบางส่วนไว้ในอ่าวเปอร์เซียเพื่อให้มั่นใจว่า เราสามารถปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือได้
“ข้อความที่เราส่งถึงเตหะรานก็คือ หากมีการส่งอาวุธให้กลุ่มต่างๆ ในเยเมนซึ่งอาจคุกคามเสรีภาพในการเดินเรือ เราถือว่านั่นคือปัญหา” ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำ
วันเดียวกัน พันเอกสตีฟ วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ปฏิเสธรายงานที่ว่า อเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบินธีโอดอร์ รูสเวลต์ และเรือลาดตระเวนยูเอสเอส นอร์มังดี ไปยังน่านน้ำใกล้เยเมนเพื่อดักตรวจเรืออิหร่านที่ขนอาวุธไปให้กบฏฮูตีในเยเมน และกองกำลังที่ภักดีต่ออดีตผู้นำเยเมน
วอร์เรนกล่าวว่า ไม่เชื่อว่า เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะทำการติดต่อโดยตรงกับกองเรือที่ประกอบด้วยเรือสินค้า 9 ลำของอิหร่าน และว่า วอชิงตันไม่ทราบว่า เรือเหล่านั้นบรรทุกอะไร แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะระบุอย่างชัดเจนว่า เรือรบอเมริกันจะสกัดและขอตรวจค้นหรือไม่ หากเรือเหล่านั้นพยายามเข้าสู่น่านน้ำเยเมน
ในส่วนของอิหร่านนั้น ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวันพุธ (22) ให้ทุกฝ่ายในเยเมนเริ่มการเจรจา
ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีแห่งอิหร่าน กล่าวในงานประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกาที่กรุงจาการ์ตาโดยแสดงความเชื่อมั่นว่า สันติภาพระยะยาวมีโอกาสเป็นไปได้หลังจากที่ริยาดยอมยุติการถล่มกบฏฮูตีที่นับถือนิกายชีอะต์เช่นเดียวกับเตหะราน และมีการจัดเตรียมการเจรจาในบรรดากลุ่มการเมืองต่างๆ ในเยเมน
โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของริยาด และเรียกร้องให้เร่งเปิดเจรจา รวมถึงจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในเยเมน และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม การหยุดทิ้งระเบิดของพันธมิตรนำโดยซาอุดีอาระเบีย ดำเนินไปได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็กลับเปิดฉากขึ้นมาใหม่