เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(21)สหรัฐฯแถลง การส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ไปยังเยเมนเพื่อจับตาอิหร่าน นั้นเป็นการเปิดโอกาสให้สหรัฐฯสามารถ “มีทางเลือกมากขึ้น” ที่จะเลือกตอบโต้กับความก้าวร้าวของอิหร่านในภูมิภาคนี้ ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ให้สัมภาษณ์ผ่าน MSNBC ทีวีเน็ตเวิร์กสหรัฐฯยืนยันว่า “สหรัฐฯส่งสารไปยังเตหะรานอย่างชัดแจ้งว่า หากอิหร่านยังส่งอาวุธสนับสนุนกบฎฮูตีในเยเมน นั่นเท่ากับเป็นปัญหา เพราะสหรัฐฯสามารถทำลายระบบป้องกันขีปนาวุธอิหร่านที่กำลังเจรจาซื้อต่อมาจากรัสเซียในสนนราคา 800 ล้านดอลลาร์ได้หากต้องการ”
ในสัปดาห์ที่ร้อนระอุของการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านในสงครามกลางเมืองเยเมนที่เรือบรรทุกเครื่องบิน “ธีโอดอร์ รูสเวลต์” พร้อมเรือลาดตระเวนติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี “นอร์มังดี” กำลังเดินทางมุ่งไปเยเมนเพื่อสกัดการสนับสนุนด้านกำลังอาวุธของเตหะรานให้กับกบฎฮูตีที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสงครามกลางเมืองเยเมนในขณะนี้ ท่ามกลางการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านที่จะกลับมาเริ่มอีกครั้งที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในระหว่างวันที่ 22 – 23 เมษายน ซึ่งจะเป็นเฟสสุดท้ายของการเจรจาในระดับผู้ช่วย (deputy level)
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(22)ว่า แหล่งข่าวกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้เปิดเผยว่า การส่งเรือรบสหรัฐฯไปยังเยเมนนั้นเพื่อต้องการสะกัดเรือจากอิหร่านที่ลักลอบขนอาวุธเพื่อส่งมอบให้กบฎฮูตีในเยเมน ซึ่งเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพันธมิตรในภูมิภาคนี้ "ในการที่มีขุมอำนาจสหรัฐฯประจำอยู่ในน่านน้ำแถบนี้ เราได้เพิ่มทางเลือกในการจัดการปัญหาให้กับสหรัฐฯ” พันเอกสตีฟ วอร์เรน (Steve Warren) โฆษกเพนตากอนแถลง
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานว่า แหล่งข่าวกองทัพสหรัฐฯได้ให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์(20)ว่า มีรายงานข่าวพบว่ากองเรือสินค้าอิหร่านที่คุ้มกันโดยเรือรบกองทัพอิหร่านและกองกำลังเรโวลูชันนารีการ์ดกำลังมุ่งหน้าสู่เยเมน เป็นสาเหตุทำให้เพนตากอนส่งกองเรือรบเพื่อไปสกัด
ในคืนวันอังคาร(21)ประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามาให้สัมภาษณ์พิเศษกับคริสต์ แมทธิว ในเครือทีวีเน็ตเวิร์ก MSNBC ว่า เรือรบสหรัฐฯที่ถูกส่งไปนั้นตรวจตราอยู่ในเขตน่านน้ำสากลเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเส้นทางการเดินเรือนานาชาติ ว่าจะสามารถยังคงปลอดภัยต่อไปได้ และได้เตือนเตหะรานให้ยกเลิกการขนส่งอาวุธไปช่วยกบฎฮูตีในเยเมน เพราะจะทำให้เกิดปัญหากับเยเมน ซึ่งเป็นประเทศที่มีปัญหามากมาย และต้องการสันติภาพเพื่อที่จะนำความสงบและเสถียรภาพมาสู่ประชาชนภายในประเทศ
และในการให้สัมภาษณ์นี้ จากการรายงานของเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษวันนี้(22) โอบามากล่าวว่า สหรัฐฯได้ส่งข้อความถึงเตหะรานอย่างชัดเจนไม่ให้ล้ำเส้นมากไปกว่านี้ “สงครามจะยังไม่สามารถยุติลงได้ หากจะยังมีสงครามตัวแทนยังคงดำเนินต่อไปในเยเมน และเราแสดงจุดยืนว่าเตหะรานจะต้องอยู่ในภาคส่วนแก้ปัญหา ไม่ใช่อยู่ในส่วนของปัญหา” โอบามาแถลง
และเสริมต่อว่า “และในขณะนี้เรือของอิหร่านยังอยู่ในน่านน้ำสากล” ซึ่ง CNN ชี้ว่า เพนตากอนได้เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานการติดต่อโดยตรงระหว่างเรือรบสหรัฐฯและของอิหร่าน ทั้งนี้การเข้ามาเสริมประจำการจะทำให้ขณะนี้มีเรือของกองทัพเรืออเมริกันประจำอยู่ในบริเวณดังกล่าวซึ่งครอบคลุมถึงชายฝั่งของเยเมนด้วย รวมทั้งสิ้น 9 ลำ โดยเรือรบซึ่งถูกส่งเข้าไปก่อนแล้วเป็น เรือพิฆาต 2 ลำ เรือกวาดทุ่นระเบิด 2 ลำ และเรือสะเทินน้ำสะเทินบก 3 ลำที่บรรทุกนาวิกโยธินอเมริกัน 2,200 คน
และโอบามาย้ำต่อว่า “จุดมุ่งหมายของผมในการแก้ปัญหา คือไม่ต้องการยุติความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ด้วยการสร้างสงครามเพิ่ม เพราะเป้าประสงค์ของผมเพื่อต้องการยืนยันว่า เราต้องการเจรจาในข้อตกลงที่เราจะสามารถยืนยันว่า “อิสราเอล” นั้นยังคงปลอดภัย และรวมไปถึงยังต้องการมั่นใจว่าพันธมิตรที่อยู่ในภูมิภาคนั้น เช่น ซาอุดีอาระเบีย และประเทศรอบอ่าวอาหรับปลอดภัย และไม่มีการแข่งสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค” โอบามาแถลง
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังส่งสัญญาณต่อเตหะรานอีกว่า สหรัฐฯมีศักยภาพมากพอในการเจาะทำลายระบบป้องกันขีปนาวุธของอิหร่านที่เตหะรานซื้อต่อจากรัสเซียได้ หากสหรัฐฯต้องการทำลายโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยของอิหร่าน หลังจากที่ในวันอาทิตย์(19)ผู้นำสูงสุดอิหร่าน “อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี” ออกแถลงการณ์ล่าสุด ประณามสหรัฐฯ ที่ได้สร้างเรื่องกล่าวหาอิหร่านว่ามีศักยภาพในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ และพล.อ.ฮอสเซน ซาลามี ( Hossein Salami) รองผู้บัญชาการหน่วยเรโวลูชันนารี การ์ดยืนกรานว่า เจ้าหน้าที่ต่างชาติจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าตรวจนิวเคลียร์ภายในเขตทหารตามข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจอย่างแน่นอน
โดยวอชิงตันไทม์ส สื่อสหรัฐฯรายงานในวันอังคาร(21)ว่า ในการให้สัมภาษณ์กับคริสต์ แมทธิว ในรายการ “ฮาร์ด บอล” นั้นโอบามากล่าวว่า “งบประมาณทางการทหารสหรัฐฯต่ำกว่า 600 พันล้านดอลลาร์เล็กน้อย ในขณะที่งบประมาณทางการทหารของเตหะรานนั้นสูงกว่า 17 พันล้านดอลลาร์ไม่มากนั้น ซึ่งแม้ว่าเตหะรานนั้นมีจะมีระบบป้องกันภัยขีปนาวุธทางอากาศ แต่ทว่าหากจำเป็น สหรัฐฯก็ย่อมสามารถทำลายได้” หลังจากพิธีกรรายการป้อนคำถามถึงดีลข้อตกลงทางการค้าที่กำลังเจรจาอยู่ระหว่างอิหร่านและรัสเซียซึ่งเครมลินกำลังเสนอขายระบบป้องกันภัยขีปนาวุธทางอากาศมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ให้กับเตหะราน และอาจจะส่งผลต่อการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านรอบใหม่ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้(22) ซึ่งทางประธานาธิบดีสหรัฐฯย้ำอีกครั้งว่า เขาสนับสนุนวิถีการทูตในการลดโครงการนิวเคลียร์อิหร่านที่ได้บรรลุข้อตกลงในกรอบใหญ่เมื่อต้นเดือนนี้
ซึ่งสอดคล้องกับการรายงานของเดอะ โพลิติโค สื่อสหรัฐฯ เมื่อวานนี้(21) ที่ชี้ว่า ทันทีที่เรือบรรทุกเครื่องบิน “ธีโอดอร์ รูสเวลต์” พร้อมเรือลาดตระเวนติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี “นอร์มังดี” มุ่งหน้าไปประจำการไม่ห่างจากเยเมน 1 วันหลังจากนั้นทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สถานการณ์ร้อนที่ตรึงเครียดมากขึ้นของเยเมนจะยิ่งเป็นผลดีต่อการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านรอบใหม่ที่จะทำให้บรรลุข้อตกลงได้ง่ายขึ้น
จอช เอิร์นเนส โฆษกทำเนียบขาวแถลงในวันอังคาร(21)ว่า “การเข้าแทรกแซงของอิหร่านในสงครามกลางเมืองเยเมน ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้การเจรจาต้องล้มไป ซึ่งในทางกลับกันแล้วจะยิ่งทำให้มีความปรารถนามากขึ้นที่จะทำให้ข้อตกลงนี้บรรลุผล”
และเอิร์นเนสยังเสริมว่า “สหรัฐฯมีความกังวลเป็นอย่างมากต่อพฤติกรรมของอิหร่าน(ในตะวันออกกลาง) แต่นั่นเท่ากับเป็นแรงขับดันในความต้องการที่จะให้ข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ทางการทูตนี้สำเร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านสามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในความครอบครองได้ ซึ่งนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
