เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “จอห์น เคร์รี” ระบุในวันพุธ (8 เม.ย.) ว่า อเมริกาจะไม่ยอมยืนดูอยู่เฉยๆ ในขณะที่อิหร่านให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏที่เป็นมุสลิมชีอะห์ที่กำลังยึดครองดินแดนของเยเมน
เคร์รี ได้บอกกับสถานีโทรทัศน์พีบีเอส ว่า มีการตรวจสอบแล้วและพบว่ามีหลายเที่ยวบินจากอิหร่านเข้าไปในเยเมนทุกสัปดาห์
เคร์รี ระบุว่า อิหร่านจะต้องนึกให้ออกว่าอเมริกาไม่ใช่ประเทศที่จะยอมอยู่เฉยๆ ในขณะที่ภูมิภาคนั้นกำลังสั่นคลอนหรือในขณะที่ผู้คนต้องปะทะกันในการสู้รบกันที่เห็นได้อย่างแจ่มแจ้งว่าเป็นการรุกล้ำพรมแดนของประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม เคร์รี ได้บอกว่า อเมริกาไม่ได้จ้องหาหนทางที่จะเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่ถึงกระนั้นก็จะไม่เดินหนีมิตรประเทศ โดยจะยืนเคียงข้างกับชาติเหล่านั้นที่กำลังรู้สึกว่าโดนคุกคาม จากผลพวงของการตัดสินใจของอิหร่าน
การแสดงความเห็นครั้งนี้ ถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ครั้งแรก นับตั้งแต่เคร์รีกลับมาจากการเจรจากรอบข้อตกลงกับอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องการควบคุมโครงการนิวเคลียร์
พันธมิตรชาติอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอเมริกาให้การหนุนหลัง ได้ใช้การโจมตีทางอากาศต่อพวกกบฏฮูตี เพื่อพยายามฟื้นฟูอำนาจการปกครองของประธานาธิบดี อับเบด รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ที่หนีออกนอกประเทศ
กบฏฮูตีได้ควบคุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างในเยเมน ซึ่งรวมถึงเมืองหลวงอย่างกรุงซานา ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากกองกำลังความมั่นคง ซึ่งยังคงภักดีต่ออดีตผู้นำ “อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์” ที่ถูกโค่นอำนาจในปี 2012 หลังเหตุการณ์อาหรับสปริง
ซาอุดีอาระเบียได้กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนกบฏฮูตี แต่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน “โมฮัมเหม็ด จาวัด ซารีฟ” ยังคงยืนกรานว่ารัฐบาลของเขาอยากให้การสู้รบยุติลงโดยเร็ว