เอเจนซีส์ - พล.ร.อ.บิล กอร์ตนีย์ (Bill Gortney) แห่ง NORAD ศูนย์ควบคุมป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ (7 เม.ย.) ว่า พบความถี่ของ Tu-95 เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลรัสเซียบินเข้าใกล้เขตป้องกันทางอากาศ ADIZ ของสหรัฐฯมากขึ้นอย่างผิดปกติหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ วลาดิมีร์ ปูติน ได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียในเดือนมีนาคม 2014 คล้ายต้องการส่งสัญญาณต้องการข่มขู่
บิสซิเนส อินไซเดอร์ รายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า ในการให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.อ.บิล กอร์ตนีย์ (Bill Gortney) แห่ง NORAD ศูนย์ควบคุมป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลของกองทัพรัสเซียที่ได้บินเข้าใกล้สหรัฐฯ มากขึ้นจนผิดสังเกตหลังจากเดือนมีนาคม 2014 เป็นต้นมา คล้ายกับว่าต้องการให้ทางสหรัฐฯ รับทราบการมีตัวตนของขุมอำนาจทางอากาศของกองทัพหมีขาว ในขณะที่สหรัฐฯ ที่ทางสหรัฐฯ ไม่ได้ทำการอันใดเลย คล้ายกับที่รัสเซียได้แสดงความก้าวร้าวต่อยุโรป
บิซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า การส่งสัญญาณทางทหาร และการแสดงแสนยานุภาพกลายเป็นสิ่งปกติไปแล้วสำหรับยุทธศาสตร์ของรัสเซียซึ่งทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่เริ่มบินลาดตระเวนแถบทะเลบอลติกของยุโรป และนอกชายฝั่งญี่ปุ่นโดยที่ปิดเครื่องติดต่อสื่อสาร
และเป็นที่รู้ว่าการบินที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในเกมการเมืองระหว่างประเทศเพื่อแสดงถึงศักยภาพของรัสเซียต่อขุมอำนาจโลกตะวันตก
“การบินของรัสเซียไม่ได้แสดงความสำคัญทางการทหารแม้แต่น้อย” ทอม นิโชลส์ (Tom Nichols) ศาสตราจาย์ประจำวิทยาลัยกองทัพเรือสหรัฐฯ (US Naval War College) และสมาชิกอาวุโสประจำคาร์เนกี เคาน์ซิล ด้านจริยศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “นี่เป็นออกแถลงการณ์ทางการเมือง ข่มขู่ จากรัสเซียเพื่อแสดงให้ยุโรปเห็นว่านาโตนั้นไม่สามารถคุ้มครองได้”
กอร์ตนีย์ยืนยันว่า ทาง NORAD รับรู้ถึงการกระทำของรัสเซีย “ทางสหรัฐฯ จับตาต่อการกระทำใดๆ ของรัสเซีย ซึ่งพวกเขาต้องทำตามกฏนานาชาติที่ระบุไว้ และทุกคนสมควรที่จะบินอย่างมืออาชีพในฝั่งของเขา และทางเราเช่นกันในขณะที่จับตาดูด้วยความระมัดระวัง” กอร์ตนีย์แถลง
ทั้งนี้ ทาง NORAD พบว่า เครื่องบินรบสัญชาติรัสเซียปรากฏขึ้นบนฟากฟ้าใกล้กับเขตป้องกันทางอากาศ ADIZ ของรัฐอะแลสกา