เอเจนซีส์ - หัวหน้าข่าวกรองรัสเซียลอบพบกับเจ้าหน้าที่การข่าวกรองสหรัฐฯ ในเยอรมนีในเดือนที่ผ่านมา หารือรายละเอียดถึงเหตุการณ์ความเป็นไปได้ทุกรูปแบบที่จะนำไปสู่ “สงครามนิวเคลียร์” ที่หนึ่งในนั้นคือ “หากไครเมียถูกรุกราน ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน จะถือเป็นการประกาศสงครามทันที” ในขณะที่วันนี้ (3) มีรายงานว่า ชาติบนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย รวมถึงฟินแลนด์ และชาติแถบทะเลบอลติก เช่นลัตเวีย เตรียมความพร้อมทางทหารในการฝึกซ้อมรบร่วมกับนาโต รวมถึงเพิ่มงบประมาณทางความมั่นคง เพื่อรับมือรัสเซียหากเกิดสงคราม
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (2) ว่า มีรายงานว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มีแผนที่จะใช้ “สงครามนิวเคลียร์” ข่มขู่นาโตให้ออกจากประเทศที่มีอาณาเขตรอบรัสเซีย
ทั้งนี้ พบว่ามีการพบปะลับของบุคคลสำคัญในการข่าวกรองรัสเซียและของทางวอชิงตันซึ่งมีการเปิดเผยว่าปูตินพร้อมที่จะพิจารณาว่าความพยายามที่จะนำไครเมียกลับคืนสู่ยูเครนถือการประกาศสงคราม และจะทำทุกวิถีทางรวมไปถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อควบคุมเสถียรภาพของภูมิภาคนี้ไว้
นอกจากนี้ บันทึกจากการประชุมลับชี้ว่า ปูตินยังกำลังวางแผนการทางทหารต่อชาติประเทศรอบทะเลบอลติกที่สนับสนุนชาติตะวันตกเพื่อเป็นการท้าทายซึ่งหน้าต่อองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ได้เคยสัญญาว่าจะปกป้องประเทศเหล่านี้จากการรุกรานของรัสเซีย ที่รวมไปถึงการโจมตีทางโลกไซเบอร์ และการใช้กำลังทหารในแถบที่ชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยในเอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย เพื่อเขย่าเสถียรภาพแถบนี้
สื่ออังกฤษชี้ว่า ไทม์สเป็นสื่อแรกรายงานถึงบันทึกการประชุมลับระหว่างข่าวกรองรัสเซียและสหรัฐฯ ในเยอรมนีที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยไทม์สระบุว่ารัสเซียวางแผนเตรียมความพร้อมตอบโต้ด้วยกำลังกับนาโตที่ได้ทำการซ้อมรบในประเทศต่างๆ ที่มีชายแดนติดรัสเซียในแถบทะเลบอลติกที่จะใช้กองทัพแฮกเกอร์ไซเบอร์ซึ่งไม่สามารถตรวจพบไปถึงแหล่งต้นกำเนิด มอสโกได้
ตัวแทนหน่วยงานข่าวกรองรัสเซียที่ได้รับข้อมูลจากรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลารอฟ ก่อนที่จะพบปะกับตัวแทนสหรัฐฯ นั้น มีรายงานข่าวว่า ได้ยื่นลิสต์ยาวเป็นหางว่าวถึงระดับการตอบโต้ตั้งแต่ขั้นไม่ใช้กำลังไปจนถึงขั้นก่อสงครามนิวเคลียร์จากการที่นาโตได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคนี้ รวมไปถึงสถานการณ์ในแถบทะบอลติก ที่พบว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนตะวันออก และความพยายามที่จะชิงไครเมียกลับคืนเป็น 2 สาเหตุใหญ่ที่อาจทำให้มีสงครามนิวเคลียร์เกิดขึ้น
โดยเฉพาะที่ไครเมียซึ่งมีรายงานว่ามีการเปิดเผยทางวาจาว่าหากมีความพยายามที่จะทำให้รัสเซียไม่สามารถควบคุมคาบสมุทรไครเมียต่อไปได้ รัสเซียพร้อมที่จะใช้กำลังตอบโต้อย่างถึงที่สุด รวมถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ “ประชาชนชาวรัสเซียต้องการใช้กำลังทางทหารตอบโต้แน่นอน หากมีความพยายามเช่นนั้นเกิดขึ้น” หัวหน้าข่าวกรองรัสเซียแถลง
และในวันนี้ (3) เอเอฟพีรายงานว่า ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย รวมไปถึงฟินแลนด์ และชาติรอบทะเลบอลติก และทะเลดำ ต่างกังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะถูกรัสเซียรุกราน และเพื่อตอบโต้ความถี่ในการซ้อมรบของรัสเซียในแถบทะเลบอลติก และทะเลดำ นาโตและพันธมิตรได้ร่วมกันจัดตั้ง “'rapid reaction force” หรือหน่วยกำลังตอบโต้เร็วซึ่งมีทหารราว 5,000 นายเป็นหัวหอก และกองบัญชาการหลักกระจายอยู่ในบัลกาเรีย โปแลนด์ และโรมาเนีย และนาโตยังปกป้องทางอากาศในอดีตประเทศสหโซเวียต เช่น เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย เป็นต้น
ทั้งนี้ พบว่าโปแลนด์เพิ่มงบมากถึง 42 พันล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงกองทัพครั้งใหญ่ และพบว่าสวีเดนที่เป็นชาติซึ่งตื่นตัวสูงสุดในแถบสแกนดิเนเวีย ได้สั่งเคลื่อนย้ายทหารให้ไปประจำที่เกาะก็อตแลนด์ (Gotland) และประกาศที่จะยกเครื่องทัพฝูงเรือดำน้ำใหม่หมด หลังจากที่สตอกโฮล์มล้มเหลวในการตามจับเรือดำน้ำขนาดเล็กสัญชาติรัสเซียที่แอบลอบดำเข้ามาในน่านน้ำสวีเดน