เอเจนซีส์ - ตำรวจบางละมุง จ. ชลบุรี กลายเป็นข่าวบนหน้าสื่ออังกฤษ เดลีเมล หลังสามารถกู้สถานการณ์ฉุกเฉิน ยิงล้อรถเช่าของ ซาแมนธา หรือ อาแมนดา นักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันวัย 29 ปีไว้ได้ หลังจากเธอสับสนระบบขับรถในไทยซึ่งใช้พวงมาลัยขวา รวมไปถึงทิศทางการขับที่ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯโดยสิ้นเชิง และทำให้นักท่องเที่ยวผมทองผู้นี้ขับรถย้อนศรชนรถคันอื่น 13 คันรวดก่อนที่จะถูกหยุดด้วยฝีมือของตำรวจไทยในพื้นที่เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมานี้
เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(6) ถึงเหตุระทึกขวัญกลางเมืองบางละมุง จ. ชลบุรี ซึ่งถือเป็นเมืองตากอากาศของไทยที่มักมีนักท่องเที่ยวต่างชาติขับผ่านและเที่ยวชมก่อนจะเดินทางไปพัทยา เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่ามา ซาแมนธา หรือ อาแมนดา นักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันวัย 29 ปี ขับรถย้อนศรเข้าตัวเมืองในขณะที่มีรถพลุกพล่านด้วยสำคัญผิดในทิศทางการขับรถของไทย และระบบพวงมาลัยที่ตรงกันข้ามกับที่เธอคุ้นเคยในสหรัฐฯ ทำให้เธอขับรถเช่าชนโตโยตาสีขาว พุ่งชนรถคันอื่น 13 คันรวด และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวผมบลอนด์ผู้นี้ถูกไล่ติดตามโดยตำรวงจบางละมุงตามเส้นทางพัทยาเป็นเวลา 30 นาที ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเปิดฉากยิงยางล้อรถยนต์จำนวน 3 ล้อเพื่อทำให้รถนั่งท่องเที่ยวหยุด และไม่ไปทำร้ายผู้อื่น
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่รถโตโยตาสีขาวรุ่นอินโนวาของซาแมนธาหยุดลง ตำรวจท้องที่บางละมุงได้ทุบกระจกด้านข้างผู้โดยสารเบาะหน้าเพื่อจับกุมหญิงผู้นี้หลังจากที่ซาแมนธาปฎิเสธที่จะลงจากรถ
และคุ้มกันเธอลงจากรถเพื่อไปยังรถสายตรวจท่ามกลางไทยมุงที่ล้อมรอบตัวเธอด้วยอาการที่โกรธเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัด และพยายามเข้าตรงทำร้ายนักท่องเที่ยวสาว
ซึ่งบางกอกโพสต์ สื่อไทยภาคภาษาอังกฤษได้บรรยายถึงการขับรถของซาแมนธาวัย 27 ปีที่คล้ายกับเกมส์ขับรถชนไล่อัด “demolition derby” ในไทยตลอดเส้นทางชลบุรีในเขตบางละมุง โดยมหากาพย์นี้เริ่มต้นตั้งแต่ซาแมนธาขับรถยนต์ย้อนศรไปตามถนนในซอยสยามคันทรีคลับในพัทยาตะวันออก และพุ่งชนรถมอเตอร์ไซด์
แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า นักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันผู้นี้ไม่หยุดรถเพื่อลงไปดูคู่กรณี แต่เธอกลับยังคงขับรถผิดทิศทางต่อไปตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าสู่แยกสัญญาณไฟจราจรที่มีการจราจรหนาแน่น
ทั้งนี้รถโตโยตาสีขาวของนักท่องเที่ยวอเมริกันถูกตำรวจพื้นที่ไล่กวดก็ต่อเมื่อซาแมนธาได้ขับรถชนไปถึง 12 คันแล้ว “มันเป็นขับที่ป้าคลั่งมาก” ตำรวจไทยให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยในพื้นที่ภาคภาษาอังกฤษ Phuket Wan Tourism News ว่า “นักท่องเที่ยวอเมริกันคนนั้นขับรถย้อนศร และพุ่งชนมอร์เตอร์ไซด์ แต่ยังไม่ยอมหยุด เธอยังขับต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติหญิงรายนี้เลี้ยวรถตรงหัวมุม และขับชนรถคันอื่นอีก ซึ่งนับรวมกันทั้งหมดได้ 13 คัน”
และสื่ออังกฤษรายงานต่อว่า หลังจากที่ตำรวจบางละมุงได้ยิงล้อ 3 ล้อของรถซาแมนธา และเธอถูกจับกุม ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะมีอาการบาดเจ็บที่ขา ทางตำรวจต้องคุ้มกันเธอให้พ้นจากฝูงชนไทยมุงที่รุมล้อมจะเข้าทำร้าย รวมไปถึงเหยื่อมอร์เตอร์ไซด์รายแรกที่ถูกนักท่องเที่ยวต่างชาติรายนี้พุ่งชน ซึ่งเดลีเมลรายงานสรุปโดยอ้างจากสื่อท้องถิ่นPattaya Oneว่า นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯวัย 29 ปีถูกสั่งให้ชำระค่าปรับเป็นจำนวนมาก และรวมไปถึงต้องรับผิดชอบค่าเสียหายของรถทั้ง 13 คันที่ตกเป็นเหยื่อการขับของเธอ และค่ารักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 2 รายจากการขับขี่ของเธออีกด้วย
และเดลีเมลรายงานโดยอ้างจากPattaya One ทิ้งท้ายว่า นักท่องเที่ยวหญิงรายนี้กล่าวแสดงความเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเธอเปิดเผยว่า เธอตกใจมากจึงทำให้เธอไม่ยอมลงจากรถหลังถูกตำรวจเรียกให้ลงจากรถเพื่อดำเนินการจับกุม